รัฐบาลอินเดียได้บล็อกการเข้าถึงแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตยอดนิยมอย่าง Gate.io เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2024 พร้อมข้อความบนเว็บไซต์ระบุว่า “เว็บไซต์นี้ถูกบล็อกตามคำสั่งของกระทรวง กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศภายใต้พระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศ พ.ศ. 2543 (IT Act, 2000)”
ผู้ใช้งานต่างวิตกกังวล เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนหรือทำธุรกรรมใดๆ ได้เลย โดยลูกค้าต้องเจอกับข้อความที่แสดงข้อผิดพลาดบนเว็บไซต์ ซึ่งระบุว่า “คุณกำลังพยายามเข้าถึงบริการของเราในพื้นที่ที่ถูกจำกัดซึ่ง Gate.io ไม่สามารถให้บริการได้”
🚨Gate. io has been restricted in India, leaving users unable to access their funds or make withdrawals. pic.twitter.com/HIRAoxfPjA
— India Crypto Research (@icr_indiacrypto) December 10, 2024
หนึ่งในผู้ใช้งานได้โพสต์บน X ว่า “@gate_io ถูกแบนโดยรัฐบาลอินเดีย! เว็บไซต์ใช้งานไม่ได้ แต่แอปยังใช้งานได้อยู่ คำแนะนำของผมคือ ย้ายเงินของคุณไปที่ hardware wallet ให้ไวที่สุด”
ขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ชี้ว่าทั้ง Gate.io และแพลตฟอร์มอื่นๆ ยังไม่ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับการแบนนี้แต่อย่างใด ความสับสนดังกล่าวทำให้เทรดเดอร์หลายพันคนต้องติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมสินทรัพย์คริปโตของตัวเองได้เลย
ความท้าทายด้านกฎระเบียบสำหรับ Crypto Exchange ในอินเดีย
การปิดตัวของ Gate.io เป็นไปในแนวทางที่คล้ายกับกระดานเทรดระดับโลกอีกหลายแห่ง ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในอินเดีย
แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น Bitfinex, Kraken, Huobi และ MEXC Global ก็ถูกบล็อกเช่นเดียวกัน เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นรวมถึงกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (Prevention of Money Laundering Act หรือ PMLA) ของอินเดีย
หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (Financial Intelligence Unit หรือ FIU) ภายใต้กระทรวงการคลังของอินเดีย เตรียมพิจารณาคำร้องจากตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตจากต่างประเทศ 7 แห่ง เพื่อขอให้เปิดดำเนินการในประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ถูกบล็อกไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหน่วยงานรายงานข้อมูล (reporting entities) และไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด AML
“เรากำลังจัดการรับฟังคำชี้แจงจากแพลตฟอร์มคริปโตในสัปดาห์นี้ และจะพิจารณาแนวทางการดำเนินการในอนาคตตามคำชี้แจงที่ได้รับ” เจ้าหน้าที่อาวุโสของ FIU กล่าว
มีรายงานว่า FIU กำลังพิจารณายกเลิกการแบนดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องชำระภาษี Goods and Services Tax (GST) คงค้างที่มีมูลค่ารวม ₹2,900 crore ($350 ล้าน) และต้องยอมรับมาตรการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้น
ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามกฎการยืนยันตัวตน (KYC) การรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย และการย้ายเซิร์ฟเวอร์ไปยังอินเดียให้เป็นไปตามแนวทางของกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY)
ในขณะเดียวกัน บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่อย่าง Binance ได้กลับมาดำเนินงานในอินเดียได้สำเร็จหลังจากจ่ายค่าปรับ ₹18 crore ($2.5 ล้าน) เมื่อต้นปี 2024 และปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบในท้องถิ่น
จุดยืนของอินเดียเกี่ยวกับกฎระเบียบของคริปโต
ในเดือนสิงหาคม 2024 กระทรวงการคลังของอินเดียได้ชี้แจงว่าไม่มีแผนในระยะเร่งด่วนที่จะออกกฎหมายเกี่ยวกับการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการ Virtual Digital Asset Service Providers (VDASPs) ได้รับการจัดประเภทเป็นหน่วยงานที่ต้องรายงานตามกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการฟอกเงิน (AML laws)
ในการตอบคำถามของสภาผู้แทนราษฎรขั้นล่าง Pankaj Chaudhary รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่ารัฐบาลไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่ารวมของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชาวอินเดียถือครองหรือจำนวนของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ดำเนินการในภาคส่วนนี้ เนื่องมาจากลักษณะที่ยังไม่ถูกกำกับดูแล
“ทุกเขตอำนาจ รวมถึงอินเดีย ควรประเมินลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงของประเทศตนเอง และร่วมมือกับองค์กรที่กำหนดมาตรฐานและ G20 เพื่อพิจารณามาตรการที่จำเป็นต่อสินทรัพย์คริปโตอย่างเหมาะสม” นาย Chaudhary กล่าว
แม้จะยังไม่มีการออกกฎหมายที่ครอบคลุมอย่างสมบูรณ์ รัฐบาลได้แนะนำมาตรการเพื่อสร้างความรับผิดชอบในหมู่แพลตฟอร์มคริปโต ยกตัวอย่างเช่น VDASPs ได้รับการกำหนดให้เป็นองค์กรที่มีหน้าที่รายงาน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่ออาชญากรรมทางการเงิน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล