เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา Tether บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง stablecoin อย่าง USDT ได้มีรายงานเปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมา เหรียญมีการเติบโตโดยอาศัยแรงซื้อและสนับสนุนจากนักลงทุนรายย่อยไปจนถึงนักลงทุนขนาดกลาง มากกว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่
โดยภายในรายงานของ Tether Insights ได้เปิดเผยว่า Tether ยังคงเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยมของเหรียญ stablecoin อย่าง USDT อ้างอิงจากจำนวนของวอลเล็ตที่ถือครอง
Tether Insights เปิดเผยว่า USDT มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 71% ในปีที่แล้ว ประกอบกับการเติบโตกว่า 129% ในปีก่อนหน้า โดยพบว่าการเติบโตที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่มาจากการถือครอง USDT ที่เพิ่มขึ้นของคริปโตวอลเล็ตที่ถือครองคริปโตมูลค่าไม่เกิน $1,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้เรียกได้ว่าการเติบโตดังกล่าวนี้มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างแรงหลังจากเกิดเหตุการณ์การล่มสลายของ FTX จนทำให้นักลงทุนเลือกที่จะถือครอง USDT ด้วยวิธี self-custody มากกว่าการเก็บไว้บนแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์
การเติบโตของ USDT
เรียกได้ว่าการที่เหรียญ USDT สามารถมีการเติบโตอยู่เหนือ stablecoin คู่แข่งอย่าง USDC และ DAI จะกำลังเผชิญกับการหลุดค่าเงิน (de-peg) จากผลของเหตุการณ์ Silicon Valley Bank ล่มสลาย ซึ่งเป็นการเสริมสร้างตำแหน่งของ USDT ในฐานะ stablecoin ที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก
ตามข้อมูลจาก Tether จำนวนกระเป๋าเงินที่มียอดคงเหลือต่ำที่ถือ USDT จำนวนมากพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือและประโยชน์ใช้สอยของ stablecoin ตัวนี้
“การถือครอง USDT จากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสามารถในการเข้าถึงของ USDT โดยเฉพาะกับผู้ที่อาจไม่มีบัญชีธนาคาร นอกจากนี้มันยังแสดงให้เห็นว่าผู้มีใช้งานจำนวนไม่น้อยที่เลือกกลับมาถือ USDT ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของมันในฐานะเครื่องมือทางการเงินสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงระบบธนาคารแบบดั้งเดิม”