แนะนำ 11 เหรียญ AI ที่ดีที่สุด ปี 2025

ปัจจุบัน โครงการคริปโต AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า AI จะกลายมาเป็นเมกะเทรนด์บนบล็อกเชน ซึ่งเราอาจจะเห็นได้จากการเติบโตของ ChatGPT ของ OpenAI, Generative AI และเทคโนโลยี Machine Learning และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น อุตสาหกรรมคริปโตก็มีนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการสร้าง “เหรียญ AI” เช่นกัน

คาดว่าเหรียญ AI จะช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดโดยรวมของภาคส่วนคริปโตได้ เช่นในช่วงต้นปี 2023 ที่เหรียญ FET มีราคาพุ่งขึ้นกว่า 200% ในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว แสดงให้เห็นว่า ตลาดเหรียญคริปโต AI มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูดความสนใจและการลงทุนทั่วโลก

เมื่อเทคโนโลยี AI และบล็อกเชนรวมเข้าด้วยกัน ความเป็นไปได้ก็จะไร้ขีดจำกัด ในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึงเหรียญ AI ที่ดีที่สุด 11 อันดับแบบเจาะลึก และทุกสิ่งที่คุณควรรู้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรลงทุนในเหรียญ AI ในปี 2025 หรือไม่

เหรียญ AI Coin ที่ดีที่สุดในปี 2025

โครงการคริปโตที่เพิ่งเปิดตัวไปหลายๆ โครงการก็เป็นเหรียญเกี่ยวกับ AI เราได้รวบรวมบรรดาเหรียญเกี่ยวกับ AI ที่ดีที่สุด 11 อันดับไว้ ไปดูกันดีกว่าว่า ในรายการของเรามีเหรียญ AI อะไรบ้าง:

  1. SUBBD – โทเค็นประจำ SUBB แพลตฟอร์มเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่
  2. MIND of Pepe – โทเค็นประจำ SUBB แพลตฟอร์มเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่
  3. Fetch (FET) — เหรียญ AI ที่มีผลตอบแทนดี ติดอันดับเทรนด์ในปี 2025 บน CoinMarketCap
  4. iExec RLC (RLC) — เหรียญคริปโตขับเคลื่อนด้วย AI ที่ปฏิวัติ Big Data, FinTech และอื่นๆ
  5. Ocean Protocol (OCEAN) — Ocean Protocol ใช้ AI เพื่อปลดล็อคและทำกำไรจากข้อมูล
  6. SingularityNET (AGIX) — ตลาดอัลกอริทึม AI ออนไลน์
  7. Velas (VLX) — เหรียญคริปโตขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีประโยชน์ใช้งานที่ปฏิวัติวงการ
  8. VIDT DAO (VIDT) — เหรียญ AI โอเพ่นซอร์สที่ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของระบบนิเวศ Web3
  9. Cortex (CTXC) — เหรียญคริปโตสัญญาอัจริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI
  10. dKargo (DKA) — เหรียญ AI ที่ทำให้ระบบลอจิสติกส์มีระบบระเบียบมากขึ้น
  11. Numeraire (NMR) — กองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ใช้ข้อมูลจากคริปโต

ค้นหาเหรียญ AI ที่ดีที่สุดเพื่อลงทุน จะเริ่มต้นได้อย่างไร?

AI เป็นกระแสที่กำลังมาแรงในปี 2025 และในแต่ละวันที่ผ่านไป ประโยชน์ใช้งานของเทคโนโลยีที่ทรงพลังนี้ยิ่งแพร่หลายมากยิ่งขึ้น มีการคาดการณ์ว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จะส่งผลอย่างมากต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมคริปโตอย่างรวดเร็วและดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก และ ณ เวลาที่เขียน เหรียญเกี่ยวกับ AI ก็กำลังกลายมาเป็นกระแสหลัก

ลองมาดูเหรียญเกี่ยวกับ AI ชั้นนำของปี 2025 กันให้ลึกมากขึ้นกันดีกว่า!

1. SUBBD ($SUBBD)

SUBBD เป็นโทเค็นประจำ SUBB แพลตฟอร์ม Web 3.0 ที่ขับเคลื่อนโดย AI ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์รวมเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ทั้งในรูปแบบภาพและวิดีโอ 

โดยโทเค็นจะถูกใช้เป็นสื่อกลางสำหรับการสมัครสมาชิก การเข้าถึงเนื้อหาระดับพรีเมียม และการมอบทิปให้แก่ครีเอเตอร์

แนะนำเหรียญคริปโตเปิดใหม่มีโอกาสเข้า Binance - SUBBD

อีกทั้งครีเอเตอร์ยังสามารถใช้โทเค็นเพื่อการใช้งานเครื่องมือ AI สำหรับการสร้างสรรค์เนื้อหาของตนเอง ได้แก่ ระบบโคลนเสียง AI ระบบสร้างภาพด้วย AI และระบบสร้างวิดีโอด้วย AI 

SUBBD เป็นโครงการที่กำลังเป็นที่จับตามองเพราะแพลตฟอร์มมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโครงการระบุว่าปัจจุบันนี้แพลตฟอร์มมีเนื้อหามากกว่า 2,000 รายการและมีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 250,000,000 ผู้ใช้งาน 

นอกจากนี้ ผู้ถือเหรียญยังสามารถนำโทเค็นไปทำการ Stake เพื่อรับรายได้แบบ Passive โดยเว็บไซต์ได้ระบุว่ามีอัตราผลตอบแทนประจำปีแบบไดนามิกประมาณ 20%

ไปยัง SUBBD

2. MIND of Pepe ($MIND)

MIND of Pepe เป็นโครงการที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปฏิวัติวงการวงการคริปโตโดยเฉพาะ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างความงดงามและความตลกขบขันของวัฒนธรรมเหรียญมีมเข้ากับเทคโนโลยีปัญญญาประดิษฐ์หรือ AI

โครงการนี้ได้พัฒนา AI Agent ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเทรดให้แก่นักลงทุน โดย AI จะทำการรวบรวมข้อมูลจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น X และนำมาประมวลผลเพื่อวัดความรู้สึกหรือกระแสตลาดโดยใช้การวิเคราะห์ Hive-Mind Analysis และทำการนำเสนอข้อมูลแบบเจาะลึกให้แก่ผู้ถือเหรียญผ่านแพลตฟอร์ม

เหรียญ AI ที่ดีที่สุด MIND of Pepe

ความน่าสนใจคือข้อมูลจะถูกวิเคราะห์และประมวลผลโดย AI ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าข้อมูลจะมีความเป็นกลางและตรงไปตรงมา ซึ่งจะแตกต่างจากข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์โดยมนุษย์ที่อาจมีอคติหรือความชอบส่วนบุคคล

ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโครงการได้ระบุว่ายอดระดมทุนของ MIND of Pepe ในรอบพรีเซลใกล้แตะ 8 ล้านดอลลาร์แล้วในขณะนี้และตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง

ไปยัง MIND of Pepe

3. Fetch (FET)

Fetch.ai เป็นห้องแล็บวิจัยที่ทุ่มเทให้กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 และเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2019 ผ่านการเสนอขายโทเค็นแบบ Initial Exchange Offering (IEO) บน Binance เนื่องจากใช้ AI อัตโนมัติในการดำเนินการที่ใช้เครือข่ายข้อมูลทั่วโลก Fetch.ai จึงช่วยให้ทุกคนเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น ผ่านการให้โปรโตคอลเครือข่ายเข้ารหัสที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมเพื่อเข้าถึงข้อมูลความปลอดภัยได้

Fetch (FET) เหรียญ AI

ประโยชน์ใช้งานที่เป็นรากฐานของโมเดล Fetch.AI ได้แก่ การปรับปรุงระบบกริดพลังงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มเทรด DeFi เครือข่ายการเดินทางและการขนส่ง และระบบดิจิทัลที่ซับซ้อนอื่นๆ แทบจะทั้งหมดที่ใช้ชุดข้อมูลขนาดใหญ่

FET เหรียญ AI ซึ่งเป็นเหรียญยูทิลิตี้ของ Fetch.ai ถูกใช้ใน Smart Contract และ Oracle บนแพลตฟอร์ม และพัฒนาขึ้นเพื่อสร้าง ค้นหา ฝึกฝน และปรับใช้ Digital Twin

ผู้ใช้งานสามารถสร้างและเปิดตัวสำเนาเครือข่ายของ Digital Twin ของตนโดยใช้ FET ได้ เมื่อใช้ FET นักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือที่ใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ซึ่งช่วยให้สามารถฝึกฝน Digital Twin ได้อย่างอิสระและนำมันไปปรับใช้ได้ทั่วทั้งเครือข่าย

การ Stake โทเค็น FET ทำให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของโหนดได้ ทำให้เครือข่ายน่าเชื่อถือและมีความถูกต้องมากขึ้น

เหรียญ AI คริปโตยอดนิยมนี้ลิสต์อยู่บน OKX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Social trading ที่นักลงทุนสามารถเชื่อมต่อกับนักลงทุนคนอื่นๆ ที่สนใจในคริปโตเคอเรนซี AI ได้

FET ติดอันดับเทรนด์คริปโตยอดนิยมบน CoinMarketCap ในปี 2025 ด้วยผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง

4. iExec RLC (RLC)

iExec เป็นหนึ่งในเหรียญ AI ที่เป็นเหรียญที่น่าลงทุนที่สุด เมื่อพูดถึงระบบกระจายตัวบนบล็อกเชน บล็อกเชนถูกใช้เพื่อตั้งโครงสร้างพื้นฐานตลาดกระจายตัวเพื่ออำนวยความสะดวกในการขายทรัพยากรคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน และแม้แต่ชุดข้อมูล

iExec RLC (RLC)

สิ่งนี้ทำได้โดยการจัดหากลุ่มเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่สามารถเข้าถึงได้เมื่อต้องการ ความหลากหลายของ iExec หมายความว่ามันจะถูกนำไปใช้เพื่อรองรับซอฟต์แวร์ในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่จำกัดเพียงแค่ Big Data, Healthcare, AI, Rendering และ Finance โดย iExec ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2016 เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่สำหรับการประมวลผลแบบคลาวด์

ดังนั้น iExec จึงใช้ XtremWeb-HEP ซึ่งเป็นโปรแกรม Desktop Matrix ที่ใช้งานคุณสมบัติต่างๆ เช่น ผู้ใช้งานหลายคน, แอปพลิเคชันหลายรายการ, การปรับใช้ภาพดิจิทัล, ทนทานต่อความผิดพลาด, การจัดการข้อมูล, โครงสร้างพื้นฐานส่วนตัว, ความปลอดภัย และอื่นๆ อีกมากมาย

ผู้ให้บริการทรัพยากรคอมพิวเตอร์เป็นกระดูกสันหลังของเครือข่าย iExec สิ่งเหล่านี้คือ iExec Worker ซึ่งสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายและรับ RLC เหรียญ AI ของเครือข่ายได้ตามการมีส่วนร่วม

ผ่าน iExec นักพัฒนาแอปสามารถเรียกเก็บค่าบริการสำหรับการเข้าถึงอัลกอริทึม และเจ้าของข้อมูลสามารถทำให้ชุดข้อมูลสำคัญเข้าถึงได้โดย Proof-of-Contribution (PoCo) แบบสาธารณะ ซึ่งเป็นกลไกฉันทามติที่ช่วยให้สามารถเกิดข้อตกลงได้แบบ Off-Chain Proof-of-Contribution นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการทรัพยากรบุคคลที่ 3 มีบล็อกเชนยืนยันได้ว่าทรัพยากรของพวกเขาถูกใช้อย่างไร

จากการสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum ทั้งหมด iExec ให้ DApps เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล และทรัพยากรการคำนวณได้อย่างง่ายดาย รวมถึง สามารถส่งมอบบริการประมวลผลประสิทธิภาพสูงตามความต้องการผ่านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เสมือนได้

ดังนั้น iExec จึงอำนวยความสะดวกในการคำนวณประสิทธิภาพสูง ราคาไม่แพงผ่านสถาปัตยกรรมคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับ DApps รุ่นใหม่ที่อิงจากบล็อกเชน เนื่องจากคลาวด์แบบกระจายศูนย์ทำให้การใช้อุปกรณ์ง่ายขึ้น ศูนย์ข้อมูลจึงสามารถมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น

5. Ocean Protocol (OCEAN)

Ocean Protocol เปิดให้บุคคลและองค์กรต่างๆ สามารถปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลและสร้างรายได้จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบนิเวศที่ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน OCEAN เหรียญ AI มาตรฐาน ERC-20 ถือเป็นศูนย์กลางของแพลตฟอร์มนี้

Ocean Protocol (OCEAN)

Publisher บน Ocean Protocol สามารถสร้างรายได้จากข้อมูล โดยยังคงควบคุมข้อมูลอยู่ ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงชุดข้อมูลที่ไม่สามารถเข้าถึงได้มาก่อนผ่าน Ocean Market ซึ่งสามารถซื้อ ใช้ หรือขายข้อมูลต่อได้ตามต้องการ

บริการข้อมูลแต่ละรายการบน Ocean Protocol จะแสดงโดยโทเค็นข้อมูลซึ่งห่อหุ้มชุดข้อมูล (encapsulate dataset) หรือบริการประมวลผลข้อมูล วิธีนี้ช่วยให้บุคคลที่ 3 สามารถเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลได้อย่างปลอดภัยภายในระบบที่ Publisher เป็นผู้ควบคุม

โทเค็นยูทิลิตี้ OCEAN มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยให้สิทธิ์ในการเลือกตั้งชุมชน การ Stake บนชุดข้อมูล และการทำธุรกรรมบน Ocean Market กลุ่ม AMM (Automated Market Maker) สำหรับโทเค็นข้อมูล OCEAN ช่วยควบคุมราคาโทเค็นข้อมูลตามกลไกของตลาด

Ocean Protocol ให้ทุกคนที่มีชุดข้อมูลน่าสนใจสามารถสร้างโทเค็นและแบ่งปันข้อมูลเหล่านั้นบน Ocean Market ได้ ทำให้ข้อมูลที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้กลายเป็นเข้าถึงได้ง่าย ผู้เผยแพร่ข้อมูลจะได้รับประโยชน์จากแหล่งรายได้ใหม่ๆ ส่วนนักวิชาการ นักวิเคราะห์ และสาธารณชนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงชุดข้อมูลที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น

ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ทรัพยากรของ Ocean Protocol เพื่อสร้างตลาดข้อมูลของตัวเองได้ ซึ่งทำได้โดยการฟอร์ก Ocean Protocol หรือใช้ Ocean Protocol React hooks ซึ่งให้การสนับสนุนและทรัพยากรอย่างครอบคลุมสำหรับการนำไปใช้งาน

ผู้ถือโทเค็น OCEAN จะมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศโดยการ Stake โทเค็นของตนบนชุดข้อมูลภายใน Ocean Market เพื่อมีส่วนร่วมโดยตรงในเศรษฐกิจของโทเค็นข้อมูลได้ เมื่อ Stake โทเค็นในกลุ่มโทเค็นข้อมูล OCEAN ผู้ถือโทเค็นจะกลายเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่อง และได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สร้างขึ้นจากกลุ่มโทเค็น

6. SingularityNET (AGIX)

SingularityNET เป็นแพลตฟอร์มบนพื้นฐานบล็อคเชนที่ช่วยให้สามารถสร้าง แจกจ่าย และสร้างรายได้จากบริการ AI ผ่านตลาดที่เปิดกว้าง กระจายอำนาจ และทั่วโลก

แพลตฟอร์มนี้ใช้โทเค็นยูทิลิตี้ AGIX ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกดู ทดสอบ และซื้อบริการปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ SingularityNET ยังมีตลาดสำหรับนักพัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อจัดแสดงและขายผลิตภัณฑ์ รวมถึงเครื่องมือสำหรับติดตามประสิทธิภาพและยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ

SingularityNET (AGIX)

Sophia ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหุ่นยนต์ที่คล่องตัวที่สุดในโลก ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานผู้บุกเบิกของ SingularityNET การบรรลุความเข้าใจทางภาษาอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักของ SingularityNET ควบคู่ไปกับการพัฒนา OpenCog ซึ่งเป็น AI Framework ที่มุ่งเป้าไปที่ “ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง” ที่เทียบเคียงมนุษย์ได้

SingularityNET เปิดตัวในปี 2017 และระดมทุนได้กว่า 36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างรวดเร็วผ่านการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ICO) ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน

SingularityNET โดดเด่นในฐานะตลาดแห่งแรกที่ลูกค้าสามารถทดสอบบริการ AI ก่อนชำระเงินได้ ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้เครื่องมือและไลบรารี AI ได้อย่างง่ายดาย

พอร์ทัล Request for AI (RFAI) ของ SingularityNET ช่วยเชื่อมต่อบุคคลที่ต้องการบริการ AI เฉพาะทางกับชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเริ่มใช้งานเครื่องมือ AI ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว และให้นักพัฒนาได้รับ AGIX เหรียญ AI ของเครือข่ายเป็นผลตอบแทน

การเติบโตของ SingularityNET ช่วยให้ประโยชน์ใช้งานของ AGIX ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ฟังก์ชัน SNEP ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2020 ช่วยให้ผู้ถือ AGIX สามารถลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการปรับปรุงเครือข่ายได้ นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Staking ที่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2020 ยังช่วยให้ผู้ถือสามารถ Staking โทเค็นเพื่อแลกกับรางวัลได้อีกด้วย

SingularityNET ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Hanson Robotics เพื่อเปิดตัว Awakening Health ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ Grace ซึ่งเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์เปิดตัวของบริษัท

7. Velas (VLX)

บล็อคเชน Velas โดดเด่นด้วยความสามารถในการจัดการธุรกรรมได้มากถึง 75,000 รายการต่อวินาที ควบคู่ไปกับความปลอดภัยระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมและมีค่าใช้จ่ายเกือบเป็นศูนย์

Velas (VLX)

ระบบนิเวศของ Velas ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์แบบกระจายอำนาจที่สร้างขึ้นบนบล็อคเชน (โดยมี VLX เหรียญ AI ของเครือข่ายสำหรับใช้งานบนระบบนิเวศ) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสะดวกและข้อดีของการใช้โซลูชันแบบกระจายอำนาจและโอเพ่นซอร์ส

คุณสมบัติหลักที่ทำให้ Velas โดดเด่น ได้แก่:

  • ธุรกรรมที่รวดเร็วและประหยัด: ปริมาณธุรกรรมสูงพร้อมต้นทุนที่ต่ำ ให้ผลลัพท์ที่มีประสิทธิภาพด้วยการลงทุนที่ต่ำ
  • ความเข้ากันได้ของ EVM: รองรับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ได้ ช่วยบูรณาการกับแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApps) และ Smart Contract บน Ethereum ได้อย่างราบรื่น
  • บัญชี Velas: ด้วยแนวทางแบบไร้รหัสผ่านสำหรับการใช้แอปพลิเคชันบล็อคเชน ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกโดยไม่กระทบต่อความปลอดภัย ซึ่งคล้ายกับแพลตฟอร์มหลักอย่าง Google หรือ PayPal
  • ไมโครแอป: แผนในอนาคตได้แก่การรองรับ dApp แบบข้ามแพลตฟอร์ม โดยที่ทั้งโค้ด (logic) และ UI จะถูกเก็บไว้บนบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ (immutable distributed ledger)
  • การจัดการการเข้าถึง: มีระบบการตรวจสอบสิทธิ์และการอนุญาตแบบกระจายอำนาจ ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกวิธีการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูล IPFS ของตนได้
  • กระเป๋าเงิน Velas: กระเป๋าเงินสกุลเงินดิจิทัลอเนกประสงค์ที่รองรับสกุลเงินหลายสกุลและเสนอความสามารถในการ Staking ให้กับผู้ใช้งาน
  • Velas Vault: รักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เป็นความลับและรหัสผ่านแบบใหม่ มีโซลูชันการดูแลแบบกระจายอำนาจสำหรับทรัพย์สินบนบล็อคเชนต่างๆ รวมถึง Bitcoin, Ethereum และโทเค็น ERC-20

คุณสมบัติเหล่านี้ร่วมกันทำให้ Velas เป็นระบบนิเวศบล็อคเชนที่ไม่ซ้ำใคร โดยผสมผสานธุรกรรมความเร็วสูง มาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และแอปพลิเคชันที่เป็นมิตรซึ่งออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมแบบกระจายอำนาจ

8. VIDT DAO (VIDT)

VIDT DAO เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่รับรองความน่าเชื่อถือที่ตรวจสอบได้ทั่วทั้งระบบนิเวศ Web3 โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะ (public blockchain) ขั้นสูงและการประทับเวลา (timestamp)

VIDT DAO (VIDT)

นักพัฒนาและผู้ใช้ Web3 สามารถใช้เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สของ VIDT DAO เพื่อลงทะเบียนและประทับเวลาสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ใบรับรอง ข้อมูลเซนเซอร์ และเฟิร์มแวร์ ทำให้ VIDT DAO สร้างความน่าเชื่อถือในกระบวนการต่างๆ ได้ด้วยการตรวจสอบข้อมูลและบันทึกต่างๆ

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น Procentec, Nyenrode, AmSpec, DeGO, IBM และ Amsterdam Vintage Watches ได้เริ่มใช้งาน VIDT Validation Tech แล้ว

แพลตฟอร์ม VIDT DAO จะใช้เหรียญ AI ของเครือข่าย VIDT ในการยืนยันธุรกรรม ธุรกรรมแต่ละรายการจะบันทึกแฮชไฟล์ ประทับเวลา และที่อยู่บล็อคเชนเอาไว้ ซึ่ง VIDT จะใช้งานได้ทั้งบน Ethereum (ERC-20) และ Binance Smart Chain (BEP-20)

VIDT DAO ทำงานเป็นแพลตฟอร์มตรวจสอบความถูกต้องของบล็อคเชนรุ่นที่ 3 ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกและติดตามแหล่งที่มาของข้อมูล การเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของ และระบุกิจกรรมฉ้อโกงโดยใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บบล็อคเชนได้

บนบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจ (บล็อคเชน) ผู้คนสามารถตรวจสอบและยืนยัน Chain of Custody ใดๆ ได้ ผ่านทาง API ของโครงการ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ในภาษาต่างๆ เช่น Python, JS และ Java ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสบนบล็อคเชนได้อย่างปลอดภัย

นักพัฒนาให้คุณค่ากับเทคโนโลยี VIDT สำหรับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาผ่านการประทับเวลาและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและคุ้มค่าสำหรับการขายสินทรัพย์ดิจิทัล

องค์กรและบุคคลต่างๆ สามารถใช้บริการคลาวด์ที่เชื่อมโยงกับ VIDT API ซึ่งเข้ากันได้กับภาษาการเขียนโปรแกรมหลักๆ เป็นวิธีการที่ประหยัดและง่ายดายในการเริ่มใช้งานโครงสร้างพื้นฐานของ VIDT DAO ได้

Smart Contractของ VIDT DAO ระบุผู้จัดทำไฟล์และจัดเก็บแฮชไฟล์อย่างปลอดภัยในรูปแบบเข้ารหัสบนบล็อคเชน ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น ข้อบังคับทั่วไปเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล (GDPR)

9. Cortex (CTXC)

Cortex เป็นเครือข่ายบล็อกเชนสาธารณะแบบเพียร์ทูเพียร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานส่งและเรียกใช้ระบบ AI บนระบบแบบกระจาย (Distributed System) ได้

Cortex (CTXC) เหรียญ AI

นี่คือแพลตฟอร์ม AI โอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการรวมโมเดล AI เข้ากับ Smart Contract และพัฒนาแอปกระจายอำนาจที่ใช้ AI (dApps) โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ปัญญาประดิษฐ์เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

แพลตฟอร์มนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่าสิ่งที่มีอยู่ใน Smart Contract ของ Ethereum ในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด เครือข่าย Cortex รองรับแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ (dApps) ที่หลากหลายซึ่งขับเคลื่อนโดย AI รวมถึง Stablecoin ที่ควบคุมโดย AI เกมคริปโตที่เล่นเพื่อรับเงิน และสินเชื่อคริปโต

หัวใจสำคัญของ Cortex คือ Cortex Virtual Machine ซึ่งขับเคลื่อนการทำงานด้วย AI โดยใช้การประมวลผลด้วย GPU ของเครือข่าย ทำให้ไม่จำต้องใช้หน่วยประมวลผลกลางแบบดั้งเดิมและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณ

นักพัฒนาของ Cortex สามารถสร้างอัลกอริทึม AI ของตัวเองและสร้างรายได้โดยการขายเป็น CTXC เหรียญ AI ของเครือข่าย เมื่อมูลค่าของ CTXC เพิ่มขึ้น ก็จะจูงใจให้นักพัฒนาจำนวนมากขึ้นเข้าร่วมระบบนิเวศของ Cortex ส่งเสริมให้มีแอปพลิเคชัน AI สำหรับ dApps ที่หลากหลายยิ่งขึ้น

10. dKargo (DKA)

dKargo ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์แบบร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความไว้วางใจระหว่างพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ทั่วโลก นักลงทุนโทเค็นใน dKargo สามารถทำธุรกรรมในตลาดที่ปราศจากความไว้วางใจสำหรับการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ได้

dKargo (DKA) เหรียญ AI

กรอบงานนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับกระบวนการซัพพลายเชนให้คล่องตัวยิ่งขึ้นได้โดยการบูรณาการบริการจากผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะ

DKA เหรียญ AI ของเครือข่ายถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศ dKargo ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการชำระเงินสำหรับบริการด้านโลจิสติกส์ของ dKargo แล้ว DKA ยังใช้สำหรับการลงคะแนนเสียงและการกำกับดูแลภายในระบบนิเวศอีกด้วย ผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้อง Stake เหรียญ DKA เพื่อให้บริการด้านโลจิสติกส์บนแพลตฟอร์ม dKargo

11. Numeraire (NMR)

Numeraire เป็นเทคโนโลยีบน Ethereum ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาและความน่าเชื่อถือของโมเดล Machine Learning ผ่านการทดลองอย่างจริงจังในด้าน Data Science

แพลตฟอร์มนี้มุ่งหวังที่จะนำเสนอการกระจายอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล โดยให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่ผู้พัฒนาในการสร้างโมเดลการคาดการณ์ Machine Learning ที่แม่นยำที่สุด

Numeraire (NMR) เหรียญ AI coin

Numerai ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2015 ในซานฟรานซิสโก โดยบอกว่าเป็นกองทุนป้องกันความเสี่ยงแห่งแรกที่นำ Cryptocurrency เข้าสู่ตลาด

Numerai ใช้ข้อมูลและคำแนะนำจากผู้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อแจ้งกลยุทธ์การซื้อขายหุ้นของตน และเป็นผู้บุกเบิกการใช้การเรียนรู้ของ Machine Learning ในกระบวนการลงทุน

เหรียญ Numeraire (NMR) เป็นแนวคิดที่ไม่เหมือนใครในฐานะสกุลเงินดิจิทัลแรกที่เปิดตัวโดยบริษัทบริการทางการเงิน โดยเหรียญ AI นี้จะถูกมอบให้เป็ยรางวัลแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลที่มีโมเดลที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขัน Numerai และมีวัตถุประสงค์หลายประการ รวมถึงเพิ่มมูลค่าเมื่อมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น

Numerai ใช้ประโยชน์จากโมเดลเหล่านี้สำหรับการซื้อขายเชิงรุกในตลาดหุ้นโดยอิงจากผลลัพธ์ของการแข่งขัน แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่มองไปข้างหน้าในการซื้อขายหุ้นผ่านการพึ่งพาการคาดการณ์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI

“AI Crypto” เป็นภาคส่วนย่อยที่กำลังเติบโตของโครงการคริปโตเคอเรนซีที่พยายามควบรวม AI เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน

มีกลยุทธ์ที่หลากหลายที่ใช้โดยโครงการเหรียญ AI เหล่านี้ ตั้งแต่การผสานรวม AI เข้ากับกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกเชน ไปจนถึง การอำนวยความสะดวกให้ AI สำหรับนักพัฒนา dApp เหรียญ Altcoin ที่ดีที่สุดบางส่วนก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

โดยทั่วไปแล้ว เหรียญ AI ทั้งหมดมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้ AI ในคริปโตเคอเรนซี, เทคโนโลยีบล็อกเชน และโครงการ Web 3.0 การรวม AI เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจจะช่วยให้การประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สัญญามีความชาญฉลาดมากขึ้น และการชำระเงินอัตโนมัติที่ปรับให้เข้ากับเงื่อนไขต่างๆ ด้วยตนเอง

งานศิลปะที่สร้างโดย AI จากข้อความ ‘เหรียญ AI’

อะไรทำให้เหรียญ AI มีเอกลักษณ์ขนาดนี้?

คริปโตเคอเรนซีแต่ละตัวที่อิงจาก AI มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง โครงการคริปโตที่ใช้ AI บางโครงการก็มีเป้าหมายที่จะสร้างตลาดสำหรับการแลกเปลี่ยนอัลกอริทึม AI นั้น บางโครงการก็ใช้ AI เพื่อการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตหรือวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน เป็นต้น

โครงการคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีเป้าหมายจะใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อทำให้เกมแบบผู้เล่นหลายคนมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นก็อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเช่นกัน

ในแง่ของการทำงาน เหรียญคริปโตขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้แตกต่างจากสกุลเงินคริปโตอื่นๆ มากนัก เหรียญส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นโทเค็น ERC-20 ซึ่งหมายความว่าสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงินใดก็ได้ที่รองรับ Ethereum

ควรลงทุนในเหรียญ AI หรือไม่?

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีบล็อคเชน ตัวอย่างเช่น โทเค็น Fetch.ai สามารถสร้างมูลค่า FDV 3.5 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี

แม้ว่าจะสามารถทำเงินได้มหาศาลจากเหรียญ AI แต่นักลงทุนก็ควรประเมินแผนงานของแต่ละโครงการอย่างระมัดระวัง นักลงทุนในโครงการเหรียญ AI ควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของแผนงานและความเหมาะสมของโทเค็นในการลงทุนคริปโตระยะยาว

ทีมนักพัฒนาที่แข็งแกร่งเบื้องหลังโครงการเป็นสิ่งสำคัญในทุกๆ โครงการ ซึ่งโครงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) มักเกี่ยวข้องกับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และ AI นอกจากนี้ จะต้องมีปัญหาที่ชัดเจนซึ่งความพยายามด้าน AI กำลังพยายามเข้ามาแก้ไข

ตอนนี้ มันค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามีศักยภาพมากมายเมื่อพูดถึงการลงทุนในเหรียญ AI โปรดนึกไว้เสมอว่าโครงการควรมีศักยภาพที่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI บนบล็อกเชน และอาจจะมีศักยภาพในการแก้ปัญหาแบบล้ำสมัยได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำเหรียญ AI เหล่านี้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าอย่างมากหลายปีต่อจากนี้

บทสรุป

จาก OpenAI ChatGPT, Generative AI และเทคโนโลยี Machine Learning อื่นๆ ที่ดึงดูดการลงทุนหลายพันล้านเหรียญ เหรียญ AI จึงเป็นทรัพย์สินคริปโตที่กำลังมาแรงในขณะนี้ โดยเฉพาะ Fetch.ai (FET) ที่กลายมาเป็นข่าวพาดหัวในสื่อคริปโต ซึ่งโทเค็น FET นั้นถูกลิสต์อยู่บนกระดานเทรด OKX แล้ว

โครงการคริปโตเคอเรนซี AI นำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนรวมกับปัญญาประดิษฐ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการต่อไปในอุตสาหกรรมและภาคส่วนคริปโต นี่อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งต่อไปของคริปโตสำหรับปี 2025 ควบคู่ไปกับคริปโตเทรนด์อื่นๆ เช่น เหรียญ DEX (โทเค็นหลักของกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ หลังเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX) และเกม Play-to-Earn

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหรียญ AI

เหรียญ AI มีอะไรบ้าง?

เหรียญ AI ในตลาดคริปโตนั้นมีอยู่มากมาย แต่ที่โดดเด่นจากเหรียญอื่นๆ ก็ได้แก่ WienerAI (WAI) ที่มาพร้อมกับบอทเทรดคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ eTukTuk (TUK) โปรเจกต์ที่จะมาปฏิวัติวงการ Green AI

สามารถซื้อเหรียญ AI ได้ที่ไหน?

เหรียญและโทเค็นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถซื้อได้บนกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหลัก เช่น OKX Binance และ Crypto.com เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการเหรียญ AI ล้ำสมัยหลายโครงการเปิดให้ซื้อขายเฉพาะบนแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจ เช่น PancakeSwap

AI ถูกใช้ในคริปโตเคอเรนซีหรือไม่?

การบูรณาการ AI เข้ากับสกุลเงินดิจิทัลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ไอเดียเกี่ยวกับ AI ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ทำให้ผู้สร้าง dApp เข้าถึงอัลกอริธึม AI และเข้าถึงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น

เหรียญ AI คืออะไร?

เหรียญคริปโตที่ใช้ AI ในการพัฒนาเรียกว่า “เหรียญ AI” เป้าหมายของคริปโตเคอเรนซี AI บางสกุลคือเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนอัลกอริธึม AI ส่วนเหรียญอื่นๆ ใช้ AI เพื่อจุดประสงค์ที่จำกัด เช่น การจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่

เหรียญ AI ที่ดีที่สุดคืออะไร?

Fetch (FET) มักถูกพิจารณาว่าเป็นคริปโตเคอเรนซี AI ที่ดีที่สุด คุณสามารถใช้ Fetch เพื่อสร้างสถาบันทางการเงินอัตโนมัติของคุณเอง ซึ่งสามารถใช้สำหรับทุกอย่างตั้งแต่การซื้อขายอัตโนมัติไปจนถึงการทำกำไรด้วยข้อมูล