บริษัทลงทุนสัญชาติญี่ปุ่น Metaplanet ฉายา “Stretagy แห่งเอเชีย” และรัฐบาล El Salvador ประกาศว่าได้ซื้อ Bitcoin (BTC) เพิ่มก่อนที่ตลาดจะมีการปรับตัวลงเป็นอย่างมากในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ราคา Bitcoin ลดลงเกือบ 5% ภายในเวลาแค่ 10 ชั่วโมง
Metaplanet ประกาศว่าได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มเป็นจำนวน 135 เหรียญ รวมมูลค่าประมาณ 13 ล้านดอลลาร์ โดยซื้อที่ราคาเฉลี่ยเหรียญละ 96,185 ดอลลาร์
ในช่วงเวลาเดียวกัน รัฐบาล El Salvador ก็ได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 7 BTC โดยจ่ายในราคาประมาณเหรียญละ 94,050 ดอลลาร์ ตามรายงานจากสำนักงาน Bitcoin แห่งชาติของประเทศ
JUST IN: El Salvador bought another 7 bitcoin for their strategic bitcoin reserve 🇸🇻 pic.twitter.com/BJrgLz0QmV
— Bitcoin Magazine (@BitcoinMagazine) February 24, 2025
Metaplanet และ El Salvador ซื้อ BTC ก่อนราคาจะร่วงต่ำกว่า 91,000 ดอลลาร์
การซื้อทั้ง 2 ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่ราคา Bitcoin จะลดลงไปต่ำกว่า 91,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พร้อมทั้งราคาเหรียญ Altcoins ต่างๆ ที่ดิ่งตามกันไป
แม้ว่าราคาจะลดลง แต่ Bitcoin ก็ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว โดยซื้อขายอยู่ที่ราคา 92,260 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดได้ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน
การซื้อครั้งล่าสุดของ Metaplanet ทำให้บริษัทมี Bitcoin ทั้งหมด 2,225 BTC คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 205 ล้านดอลลาร์
ด้วยราคาซื้อเฉลี่ยที่ 81,834 ดอลลาร์ต่อเหรียญ บริษัทที่นำโดย CEO Simon Gerovich ได้กำไรแล้ว 12.7% จากการลงทุนนับตั้งแต่เริ่มใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองตั้งแต่เดือนเมษายนของปี 2024 ที่ผ่านมา
บริษัทยังรายงานว่าผลตอบแทนจาก Bitcoin เพิ่มขึ้น 23.3% ในไตรมาสนี้ ทำให้ใกล้ถึงเป้าหมาย 35% ที่ตั้งไว้สำหรับไตรมาสแรกของปี 2025
Metaplanet has acquired 135 BTC for ~$13 million at ~$96,185 per bitcoin and has achieved BTC Yield of 23.2% YTD 2025. As of 2/25/2025, we hold 2235 $BTC acquired for ~$182.9 million at ~81,834 per bitcoin. pic.twitter.com/IxCCvR0zWC
— Simon Gerovich (@gerovich) February 25, 2025
จากข้อมูลของ BitcoinTreasuries.NET พบว่า Metaplanet อยู่ในอันดับที่ 14 ของบริษัทที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก
แม้จะมีการซื้อครั้งใหญ่ แต่ราคาหุ้นของ Metaplanet ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TYO: 3350) แทบไม่ได้รับผลกระทบ โดยลดลงเพียง 0.16% เหลือ 6,130 เยน (คิดเป็น 41.06 ดอลลาร์) หลังจากที่มีการประกาศ
ในขณะเดียวกัน การซื้อของ El Salvador ครั้งนี้มีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก เพราะโดยทั่วไปแล้วประเทศนี้มักจะซื้อ Bitcoin เพียงวันละ 1 เหรียญเท่านั้น
การซื้อครั้งล่าสุดทำให้ El Salvador มี Bitcoin รวมทั้งสิ้น 6,088 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 560.7 ล้านดอลลาร์ตามราคาปัจจุบัน
การซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานก่อนที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump จะยืนยันแผนที่จะเก็บภาษีนำเข้า 25% จากสินค้าที่มาจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับที่ตลาดคริปโตโดยรวมกำลังลดลงพอดี
การลงทุนใน Bitcoin อย่างต่อเนื่องของ El Salvador เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เกี่ยวกับข้อตกลงทางการเงินมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงคือ รัฐบาลยอมที่จะผ่อนคลายนโยบายบางอย่างที่เกี่ยวกับ Bitcoin รวมถึงการยกเลิกข้อบังคับที่ให้ร้านค้าต้องรับ Bitcoin เป็นการชำระเงิน
Bitcoin ETF มีเงินไหลออก 357.8 ล้านดอลลาร์ท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาดคริปโต
ตลาดคริปโตโดยรวมก็ประสบกับความผันผวนเช่นกัน โดยกองทุน Bitcoin ETF แบบ Spot จำนวน 8 กองทุนจาก 7 บริษัทผู้ออกกองทุน มีเงินไหลออกรวมกัน 357.8 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
กองทุน Fidelity Wise Origin Bitcoin ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีเงินถอนออกถึง 247 ล้านดอลลาร์ ส่วนกองทุน BlackRock iShares Bitcoin Trust มีเงินไหลออก 159 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก Farside Investors และ HODL15Capital
สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายรัฐในสหรัฐฯ เช่น Illinois, Kentucky, Maryland, New Hampshire, New Mexico, North Dakota, Ohio, Pennsylvania, South Dakota และ Texas ได้เสนอร่างกฎหมายที่อาจทำให้รัฐเหล่านี้สามารถถือครอง Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เป็นสินทรัพย์สำรองได้
ล่าสุด นักกฎหมายใน Ohio ได้เสนอร่างกฎหมาย House Bill 116 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อนำมาใช้ในการชำระเงิน
