Cboe เสนอ Ethereum ETF Staking สวนกระแสเงินทุน ETH ไหลออก

Cboe เสนอ Staking สำหรับ Ethereum ETF: จับตาผลกระทบต่อราคา ETH
Cboe เสนอ Staking สำหรับ Ethereum ETF: จับตาผลกระทบต่อราคา ETH

หลัง ETH เผชิญ outflows อย่างต่อเนื่อง Cboe ก็ได้ยื่นข้อเสนอต่อ SEC เพื่อเปิดตัวการ Staking สำหรับ Ethereum ETF หลายรายการ ท่ามกลางกระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง เราจะมาเจาะลึกถึงรายละเอียดของข้อเสนอและผลกระทบที่อาจมีต่อราคาเหรียญ ETH กัน

Cboe เสนอให้ Fidelity Ethereum ETF สามารถ Stake ETH ทั้งหมดได้

Cboe BZX ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เพื่อขออนุมัติการ Staking สำหรับ Ethereum ETF หลายรายการ

ซึ่งนี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดการถอนเงินที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้

Cboe ซึ่งทำงานร่วมกับผู้ออก Ethereum ETF แบบ spot จำนวน 5 รายในสหรัฐฯ เช่น VanEck, Fidelity, Franklin Templeton และ Invesco ได้ส่งเอกสารแก้ไข 19b4 หลายชุดไปยัง SEC เมื่อวานนี้

ทั้งนี้ก็เพื่อเสนอให้มีการ staking สำหรับ Fidelity Ethereum Fund (FETH) และ Franklin Ethereum ETF (EZET)

การเปลี่ยนแปลงกฎที่ Cboe เสนอจะอนุญาตให้กองทุนสามารถ Stake “ทั้งหมดหรือบางส่วน” ของเงินทุนผ่าน “ผู้ให้บริการ Staking ที่น่าเชื่อถือ” ตามเอกสารที่ยื่น

หากข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติจาก SEC การ staking จะเปิดโอกาสให้กองทุนมีส่วนร่วมในระบบฉันทามติของเครือข่ายอีเธอเรียม และได้รับรางวัลรายปีเป็นผลตอบแทนสำหรับการช่วยสนับสนุนเครือข่ายดังกล่าว

ผลตอบแทนจากการ Staking อาจสูงถึง 3.3% ต่อปี

ตามข้อมูลจาก Staking Rewards ผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 3.3% ต่อปี โดยคำนวณเป็น ETH

ด้วยกองทุนที่บริหารจัดการกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามข้อมูลของ Farside Investors การเข้าร่วมการ staking อาจช่วยสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญให้กับผู้ถือหุ้นของ ETF เหล่านี้

ทั้งนี้ การ staking จะสามารถเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อ SEC อนุมัติการเปลี่ยนแปลงกฎที่เสนอเข้ามา ซึ่งยังยากจะคาดเดา

เนื่องจากตอนนี้เอง SEC ก็กำลังเลื่อนพิจารณา Crypto ETFs หลายตัวเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อทั้ง XRP, Solana, Litecoin และ Dogecoin

Ether ETF ยังคงเผชิญกระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง

การเปลี่ยนแปลงกฎที่ Cboe เสนอเกิดขึ้นในขณะที่ Spot Ethereum ETF ของสหรัฐฯ ยังคงมีกระแสเงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อวานนี้ถือเป็นวันที่ห้าติดต่อกันที่กองทุนมีกระแสเงินทุนไหลออกสุทธิ โดยนักลงทุนได้ถอนเงิน 21.6 ล้านดอลลาร์ออกไป

ในจำนวนนั้น $11.8 ล้านถูกถอนออกจากกองทุน ETHA ของ BlackRock ขณะที่อีก $9.8 ล้านถูกถอนออกจากกองทุน FETH ของ Fidelity

ขณะที่ FETH และ ETHA เป็น Ethereum ETF ที่นักลงทุนชื่นชอบ โดยมีกระแสเงินทุนไหลเข้าสะสมรวมกันกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยเฉพาะ ETHA ของ BlackRock ซึ่งถือครองสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ และบริหารสินทรัพย์เกือบ $4.2 พันล้านในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ข้อเสนอของ Cboe จะช่วยดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาสนใจ Ethereum ETF และส่งผลดีต่อราคาเหรียญหรือไม่? ต้องติดตามข่าวสารและการอนุมัติจาก SEC อย่างใกล้ชิด

ขณะนี้ราคา ETH อยู่ที่ราว 1,880.20 ซึ่งลดลง 0.07% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อ่านต่อไป