{"id":728,"date":"2024-07-05T16:13:14","date_gmt":"2024-07-05T16:13:14","guid":{"rendered":"https:\/\/insidebitcoins.com\/th\/?page_id=728"},"modified":"2025-05-30T11:12:40","modified_gmt":"2025-05-30T11:12:40","slug":"best-web3-coins","status":"publish","type":"page","link":"https:\/\/insidebitcoins.com\/th\/crypto\/best-web3-coins","title":{"rendered":"\u0e40\u0e2b\u0e23\u0e35\u0e22\u0e0d Web 3.0 \u0e17\u0e35\u0e48\u0e14\u0e35\u0e17\u0e35\u0e48\u0e2a\u0e38\u0e14 – Web 3 \u0e04\u0e37\u0e2d\u0e2d\u0e30\u0e44\u0e23?"},"content":{"rendered":"
เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด มีเป้าหมายเพื่อลดบทบาทของคนกลางในการประมวลผลธุรกรรม และให้อิสระแก่ผู้ใช้ในการเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการใช้ ในคู่มือนี้ เราจะแนะนำและรีวิวเหรียญคริปโตเคอเรนซี Web 3.0 ชั้นนำที่น่าลงทุน ซึ่งนั่นคือโทเค็นหลักที่ขับเคลื่อนโครงการ Web 3.0 ชั้นนำ<\/p>\n
Web 3.0 คือวิสัยทัศน์ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่มุ่งเน้นการควบคุมข้อมูลในระดับที่สูงขึ้น และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต โดยผสานรวมเทคโนโลยีต่างๆ เช่น machine learning, AI, บล็อกเชน, สกุลเงินดิจิทัล, smart contract และอื่นๆ อีกมากมาย<\/p>\n
ควบคู่ไปกับการพัฒนาของ Web 3.0 และคริปโตเคอเรนซีหลายโครงการเหรียญ Web 3.0 กำลังเกิดขึ้นเพื่อผสมผสานสกุลเงินดิจิทัลและ Web 3.0 เข้าด้วยกัน โดยมีบริการที่คล้ายคลึงกับที่ผู้ให้บริการ Web2 มีอยู่ อย่างไรก็ตาม โครงการเหรียญ Web 3.0 มีเป้าหมายที่จะปรับปรุงเทคโนโลยีของผู้ให้บริการ Web2 ให้มีการกระจายอำนาจมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น<\/p>\n
ในคู่มือนี้ เราได้แนะนำและตอบคำถามว่าเหรียญ Web3.0 มีอะไรบ้างที่คุ้มค่าแก่การลงทุน คุณจะได้อ่านรีวิวอย่างละเอียดของแต่ละเหรียญ รู้จักกับแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญ Web 3.0 และคำแนะนำทีละขั้นตอนว่าจะลงทุนในเหรียญ Web 3.0 อย่างไร<\/p>\n[cbm_presale_toplist id=”2513″]\n
ต่อไปนี้คือรายชื่อสรุปของ “เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด” สำหรับการลงทุนในปีนี้และปีถัดๆ ไป เราจะอธิบายรายละเอียดของแต่ละเหรียญแยกกันในหัวข้อถัดไป<\/p>\n
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าเหรียญ Web 3.0 คืออะไร และทำงานอย่างไร คุณอาจสงสัยว่าโครงการไหนคือโครงการที่ดีที่สุด และมีบริการอะไรบ้าง ในส่วนนี้ของบทความ เราจะรีวิวอย่างละเอียดถึงเหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาอินเทอร์เน็ตรุ่นที่ 3 ในหลากหลายแง่มุม<\/p>\n
Solaxy (SOLX)<\/a> ได้สร้างกระแสในวงการคริปโต ด้วยการระดมทุนผ่าน Presale ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยยอดเงินเกือบ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับโปรเจกต์นี้<\/p>\n ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความสนใจและความไว้วางใจจากนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพของ Solaxy รวมถึงความแข็งแกร่งของ ecosystem ในเครือข่าย Solana<\/p>\n ด้วยการพัฒนาในรูปแบบ Layer-2 ระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลธุรกรรม อีกทั้งยังลดค่าธรรมเนียมการใช้งาน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ Solana รองรับทั้งแอปพลิเคชัน decentralized (dApps) และจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ<\/p>\n ถึงแม้ว่า Solana จะมีชื่อเสียงทางด้านความเร็วในการทำธุรกรรมอยู่แล้ว แต่การอัปเกรดครั้งนี้ช่วยเสริมให้เครือข่ายสามารถประมวลผลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะส่งข้อมูลต่อไปยังเครือข่ายหลัก<\/p>\n ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าเดิม ทั้งในด้านการลดระยะเวลาการรอคอย และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ บนเครือข่าย Solana ได้อย่างมั่นใจ<\/p>\n อย่าพลาดข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Solaxy ติดตามโปรเจกต์ผ่านแพลตฟอร์ม X<\/a> และ Telegram<\/a>!<\/p>\n ไปยัง Solaxy<\/span><\/a>\n<\/p> Snorter ($SNORT)<\/a> เป็นโครงการเหรียญ Web 3.0 อีกหนึ่งโครงการที่มาในรูปแบบของบอทเทรดคริปโตและความน่ารักของอาร์ดวาร์กที่จะช่วยคุณดมหากลิ่นคริปโตใหม่ ๆ ที่น่าสนใจต่อการลงทุน และเป็นประโยชน์ อีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต พร้อมกับเครื่องมือที่จัดเต็มและเอื้อต่อการเทรด ทำให้คุณที่เป็นมือใหม่ก็สามารถเข้าร่วมการลงทุนได้อย่างง่ายขึ้น <\/span><\/p>\n Snorter เป็นโครงการเหรียญ Web 3.0 อีกหนึ่งโครงการที่มาในรูปแบบของบอทเทรดคริปโตและความน่ารักของอาร์ดวาร์กที่จะช่วยคุณดมหากลิ่นคริปโตใหม่ ๆ ที่น่าสนใจต่อการลงทุน และเป็นประโยชน์ อีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต พร้อมกับเครื่องมือที่จัดเต็มและเอื้อต่อการเทรด ทำให้คุณที่เป็นมือใหม่ก็สามารถเข้าร่วมการลงทุนได้อย่างง่ายขึ้น <\/span><\/p>\n โดยทางแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเทรดที่รวดเร็วด้วยระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง MEV และการป้องกัน Honeypot หรือ ป้องกันการดึงพรมในโครงการที่ไม่ชัดเจนและอาจเกิดการเททิ้งระหว่างทาง และฟีเจอร์ Limit Orders หรือ Copy trading ที่สามารถคัดลอกการเคลื่อนไหวของเทรดเดอร์ชั้นนำโดยอัตโนมัติสำหรับกลยุทธ์ที่ง่ายและทำกำไรได้นั่นเอง <\/span><\/p>\n Snorter Bot ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการสไนป์และซื้อขายโทเค็นบน Solana โดยจะเพิ่มเชนอื่นๆ เร็วๆ นี้ บอทเดียวที่สามารถตรวจจับ สไนป์ ซื้อ ขาย ตั้งค่า Stop-Loss และจัดการโทเค็นบนเชนทั้งหมดของคุณ<\/span><\/p>\n ปัจจุบันทางโครงการสามารถระดมทุนได้มากถึง 2.5 แสนดอลลาร์หลังจากเปิดตัวเพียงไม่นานด้วยราคาโทเค็นละ 0.0935 ดอลลาร์เท่านั้น หากคุณสนใจสามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินเพื่อทำการจับจองได้แล้ววันนี้ <\/span><\/p>\n ติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของ Snorter ได้ทาง Twitter,<\/span><\/a> Instagram<\/span><\/a> หรือ Telegram<\/span><\/a><\/p>\n ไปยัง Snorter<\/span><\/a>\n<\/p> BTC Bull Token ($BTCBULL) โดดเด่นด้วยการมอบรางวัลเป็นเหรียญ Bitcoin จริงให้แก่ผู้ถือโทเค็น เมื่อ Bitcoin บรรลุเป้าหมายราคาสำคัญ<\/p>\n หนึ่งในเป้าหมายหลักของโทเค็นนี้คือการจ่าย Bitcoin ให้แก่ผู้ถือ เมื่อราคาของ BTC พุ่งถึง $150,000 และจะมีการแจกเพิ่มเติมเมื่อราคาขยับขึ้นครั้งละ $50,000 เช่น $200,000, $250,000 เป็นต้น<\/p>\n สิ่งที่ทำให้ BTCBULL แตกต่างจาก meme coin อื่น ๆ คือ ไม่เพียงแค่ให้ผลตอบแทนเป็น Bitcoin จริงเท่านั้น แต่ยังมีกลไก “การเผาโทเค็น” (Token Burn) เพื่อลดจำนวนโทเค็นในตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของโทเค็นที่ยังคงอยู่ด้วย<\/p>\n กลไกการเผาโทเค็นนี้จะทำงานทุกครั้งที่ Bitcoin บรรลุเป้าหมายราคาที่สูงขึ้นตามช่วงละ $50,000 โดยเริ่มต้นจากราคา $125,000<\/p>\n โปรเจกต์นี้ต่างจาก Bitcoin ที่แค่ลดอัตราการสร้างเหรียญใหม่ BTC Bull Token ใช้วิธีลดจำนวนโทเค็นที่มีอยู่จริงในระบบ ซึ่งส่งผลให้ total supply ของโทเค็นลดลงโดยตรง และช่วยเพิ่มโอกาสที่มูลค่าของโทเค็นจะขยับสูงขึ้น<\/p>\n การออกแบบระบบของ BTC Bull Token ยังเน้นสนับสนุนการถือครองระยะยาวมากกว่าการซื้อขายในระยะสั้น ซึ่งช่วยส่งเสริมเสถียรภาพและมูลค่าในระยะยาว<\/p>\n หากไม่อยากพลาดข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ BTC Bull Token อย่าลืมติดตามผ่านแพลตฟอร์ม X<\/a> และ Telegram<\/a>!<\/p>\n ไปยัง BTC Bull Token<\/span><\/a>\n<\/p> โครงการคริปโต AI Agent ใหม่นามว่า MIND of Pepe ($MIND)<\/a> ได้สร้างความโดดเด่นในฐานะ AI agent เหรียญแรกที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการซื้อขายในตลาดคริปโตโดยเฉพาะ<\/p>\n แพลตฟอร์มนี้นำเทคโนโลยี AI รุ่นล่าสุดที่สามารถเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการควบคุมแบบรวมศูนย์<\/p>\n ด้วยความสามารถนี้ MIND of Pepe สามารถประมวลผลข้อมูลตลาดจำนวนมาก วิเคราะห์ได้อย่างอิสระ และปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับไว<\/p>\n เทคโนโลยีล้ำสมัยของ MIND of Pepe ช่วยให้ผู้ถือครอง $MIND ได้รับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ที่มีคุณค่าโดยไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดข้อมูลสำคัญที่อาจกระทบต่อมูลค่าเหรียญ<\/p>\n อีกทั้ง MIND of Pepe ยังสามารถสร้างเหรียญใหม่ได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อกระแส meme ที่กำลังมาแรง รวมถึงการโต้ตอบกับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องอาศัยการตั้งค่าใด ๆ ล่วงหน้า<\/p>\n ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ ผู้ถือเหรียญจึงได้รับทั้งข้อมูลสำคัญและเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดผลตอบแทนพิเศษสำหรับชุมชนผู้ใช้งาน<\/p>\n นอกจากนี้ MIND of Pepe ยังมีบัญชี X ที่สามารถทำงานร่วมกับโซเชียลมีเดียได้ โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแนวโน้มสำคัญเพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย<\/p>\n ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชุมชนของ MIND of Pepe ผ่าน X<\/a> และ Telegram<\/a> ได้ทันที<\/p>\n ไปยัง MIND of Pepe<\/span><\/a>\n<\/p> เหรียญ $BEST<\/a> เป็นเหรียญจากโครงการคริปโตวอลเล็ตของ Best Wallet ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับการใช้งานภายในแพลตฟอร์ม โดยจะมอบสิทธิประโยชน์อย่างส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงสิทธิในการซื้อขายเหรียญจากโครงการพรีเซลเปิดใหม่ก่อนใคร<\/p>\n ทั้งนี้ $BEST โทเคนยังเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถได้รับผลตอบแทนจากการ Stake ผ่านเครื่องมือ staking aggregator ภายในแอป และผู้ถือเหรียญจะได้รับสิทธิในการกำกับดูแล และมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจภายในระบบนิเวศได้อีกด้วย<\/p>\n โดยในปัจจุบัน $BEST สามารถระดมเงินทุนจากการพรีเซลไปได้แล้วมากกว่า $450,000 และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่สนใจยังสามารถรับเหรียญ $BEST ได้ฟรี จากการเข้าร่วมแคมเปญ Best Airdrop ผ่านแอป Best Wallet<\/p>\n ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม X ทางการของ Best Wallet หรือเข้าร่วมกลุ่มภายใน Telegram ของโครงการเพื่อพูดคุยและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม<\/p>\n ไปยัง Best Wallet Token<\/span><\/a>\n<\/p> SUBBD<\/a> ไม่ใช่แพลตฟอร์มธรรมดาสำหรับผู้ผลิตเนื้อหา แต่เป็นระบบนิเวศที่ถูกออกแบบมาโดยมี AI เป็นหัวใจหลัก เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม Content Creation ให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเหล่า content creators<\/span><\/p>\n แม้ว่าการสร้างเนื้อหาจะดูเหมือนเป็นโอกาสที่น่าดึงดูดใจ แต่ความจริงกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด หลายคนในวงการต้องประสบปัญหาจากการใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป หรือระบบการจ่ายเงินที่ไม่สม่ำเสมอ<\/span><\/p>\n เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ SUBBD ได้เปิดตัวโทเค็น $SUBBD ซึ่งเป็นโซลูชันที่มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ content creators รวมถึงการเพิ่มความโปร่งใสในการจ่ายเงิน ทั้งยังลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มแบบเดิมด้วยการใช้งานระบบกระจายศูนย์และกระบวนการอัตโนมัติ<\/span><\/p>\n ส่วนสำคัญที่สุดของ SUBBD คือการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับวงการ Content Creation โดยแฟนๆ สามารถสร้างภาพหรือวิดีโอสั้นที่สมจริงและได้รับการอนุมัติจากผู้สร้างเนื้อหา ในขณะที่ผู้สร้างเองก็สามารถใช้ AI Agent เพื่อช่วยจัดการงานต่างๆ เช่น ระบบแชทอัตโนมัติ การตัดต่อวิดีโอ การวางแผนกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ หรือแม้แต่การไลฟ์สตรีม<\/span><\/p>\n SUBBD ไม่ใช่แค่โครงการที่มีเพียงคำสัญญา แต่เป็นแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ติดตามรวมกว่า 250 ล้านคนจากทั้งแพลตฟอร์ม แบรนด์ และเครือข่ายของ Ambassadors ผู้ถือโทเค็น $SUBBD ยังได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การเข้าถึงเนื้อหาพิเศษ ส่วนลดแบบขั้นบันได และ VIP staking ซึ่งรวมไปถึงไลฟ์สตรีมประจำวัน คอนเทนต์เบื้องหลังการสร้างงาน และระบบคะแนนที่มอบรางวัลเพิ่มเติม<\/span><\/p>\n ด้วยความเชื่อมั่นจากนักลงทุน SUBBD สามารถระดมทุนได้ถึง $100,000 ภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงหลังเริ่มต้น Presale ซึ่งคุณก็ยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ได้ง่ายๆ โดยการเยี่ยมชมเว็บไซต์ Presale ของ SUBBD และซื้อโทเค็นผ่าน ETH, BNB, USDT หรือแม้แต่บัตรธนาคาร<\/span><\/p>\n อย่าลืมติดตามข่าวสารและอัปเดตล่าสุดจากชุมชน SUBBD ได้ที่ X<\/a>, Instagram<\/a> และ Telegram<\/a> เพื่อไม่ให้พลาดทุกความเคลื่อนไหว<\/span><\/p>\n ไปยัง SUBBD Token<\/span><\/a>\n<\/p> การใช้โครงสร้างพื้นฐานของเหรียญเว็บ 3.0 ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกเหมือนกับ Web2 ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำไปใช้งานในวงกว้าง ปัญหาที่โดดเด่นที่สุดประการหนึ่งคือ ผู้คนต้องจ่ายค่าแก๊สเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับ dApps แต่แอปพลิเคชัน Web2 ไม่ต้องการค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีความซับซ้อนบางอย่างกับบล็อกเชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดใช้งานผู้ใช้ใหม่<\/p>\n โครงการคริปโตเคอเรนซี Biconomy มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาง่ายๆ เหล่านี้และทำให้โครงสร้างพื้นฐานของ Web 3.0 มีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้และใช้งานได้ง่ายเหมือนกับ Web2 โครงการนี้เปิดตัวในปี 2019 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับสากลที่มีความรู้และประสบการณ์อย่างดีในสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยเสนอโปรโตคอลแบบหลายชั้นเพื่อให้นักพัฒนาสามารถเปิดใช้งานผู้ใช้ใหม่โดยไม่ต้องเสียค่าแก๊สแพง<\/p>\n โปรโตคอล Biconomy แก้ไขปัญหาหลักสี่ประการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของ Web 3.0 ประการแรกและสำคัญที่สุด คือการเปิดใช้งานผู้ใช้ใหม่จะเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถทำได้โดยไม่มีค่าแก๊ส ปัญหาสำคัญประการที่สองเกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าแก๊ส ซึ่งโดยปกติแล้วจะจ่ายเป็น ETH สำหรับ dApp บนโครงสร้างพื้นฐานของ Ethereum Biconomy ทำให้สามารถจ่ายค่าแก๊สด้วยโทเค็น ERC-20 ใดก็ได้ตามที่ผู้ใช้เลือก อีกสองปัญหาสำคัญคือผู้ใช้หลีกเลี่ยงความซับซ้อนของเทคโนโลยีบล็อกเชน และธุรกรรมจะได้รับการยืนยันเร็วขึ้น<\/p>\n Biconomy ออกคริปโตเคอเรนซีดั้งเดิมเพื่อสนับสนุนเครือข่าย ซึ่งก็คือ BICO<\/a> โดยมีการใช้งานพื้นฐานสองอย่างสำหรับโครงการ นี่เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ที่สามารถใช้เพื่อจ่ายค่าแก๊ส นอกจากนี้ ยังเป็นโทเค็นกำกับดูแลและผู้ใช้ BICO ได้รับสิทธิ์ในการลงคะแนนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุง Biconomy อุปทานรวมของคริปโตเคอเรนซีคือ 1,000,000,000 โทเค็น BICO และมี 158 ล้านโทเค็นที่ออกสู่ตลาดแล้ว<\/p>\n ด้วยแนวทางที่เป็นนวัตกรรมในการแก้ปัญหา blockchain trilemma ที่เกี่ยวกับความสามารถในการขยายขนาด (scalability) ความปลอดภัย (security) และการกระจายอำนาจ (decentralization) คริปโต Sui จึงโดดเด่นในฐานะเหรียญ Web 3.0 ที่ยอดเยี่ยม เปิดตัวด้วยการ airdrop ครั้งใหญ่ที่ได้รับการต้อนรับจากผู้คนจำนวนมาก โครงการนี้นำภาษา Move และการประมวลผลธุรกรรมแบบขนานมาใช้เพื่อให้ได้ความเร็วในการทำธุรกรรมแบบ lightning-fast และการชำระเงินแบบทันที ขณะเดียวกันยังคงรักษามาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง<\/p>\n กลไกฉันทามติแบบ delegated proof-of-stake ของโครงการทำให้มั่นใจได้ถึงการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพและการแจกจ่ายรางวัล ช่วยส่งเสริมความเสถียรของเครือข่าย แม้จะมีขีดความสามารถในการประมวลผลที่รวดเร็ว แต่ Sui ก็ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจด้วยการใช้โหนดเต็มรูปแบบจำนวนมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเครือข่าย<\/p>\n ด้วยระบบนิเวศของ dApps ที่เฟื่องฟู ครอบคลุม NFT, DeFi และ GameFi Sui นำเสนอโอกาสที่หลากหลายสำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมที่แข็งแกร่งและนักลงทุนที่มีชื่อเสียง Sui เป็นตัวแทนของนวัตกรรม Web 3.0 ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และกระจายอำนาจในโลก Web 3.0<\/p>\n โครงการ Manta Network เปิดตัวในเดือนกันยายน 2023 ซึ่งดึงดูดความสนใจในโลกคริปโตเคอเรนซีอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและแนวทางที่เป็นนวัตกรรมในด้านความเป็นส่วนตัวและความสามารถในการขยายขนาด หัวใจสำคัญของ Manta คือ modular-based zero-knowledge (ZK) rollup สำหรับ Ethereum ซึ่งประกอบด้วยสองเชนที่แตกต่างกันคือ Manta Atlantic และ Manta Pacific<\/p>\n Manta Pacific ทำหน้าที่เป็นเครือข่าย zero-knowledge Ethereum layer 2 โดยเน้นที่ความสามารถในการขยายขนาดและความปลอดภัย ด้วยการใช้ Celestia modular network สำหรับ data availability และ Polygon zkEVM จึงทำให้ได้ความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงขึ้นและค่าแก๊สที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบล็อกเชน layer 1 ที่มีอยู่ในปัจจุบันและเครือข่าย layer 2 ชั้นนำ นักพัฒนาสามารถรวมคุณสมบัติ ZK เข้ากับ smart contract ที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดายโดยใช้ ZK library และ Universal Circuits ของ Manta<\/p>\n ในทางกลับกัน Manta Atlantic ทำงานเป็นเครือข่าย layer 1 แบบกระจายศูนย์ ให้บริการ on-chain compliance identities และรองรับ zkNFTs, staking และ dApps โดยทำหน้าที่เป็น ZK identity layer ให้บริการ identity ที่สามารถทำงานร่วมกันและสอดคล้องกับกฎระเบียบแก่โครงการและเครือข่ายอื่นๆ ทำให้การรวมโซลูชันด้าน identity แบบ on-chain เป็นเรื่องง่าย<\/p>\n สำหรับผู้ใช้ Manta ให้คำมั่นสัญญาถึงธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้น ต้นทุนที่ต่ำลง ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น ความสามารถในการขยายขนาด และสิทธิในการลงคะแนนเสียงในการกำกับดูแลผ่านโทเค็น MANTA เหรียญ Web 3.0 สกุลนี้โดดเด่นด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นอันดับแรก ซึ่งช่วยให้คริปโตได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากและราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเวลาอันสั้น<\/p>\n โทเค็น API3 เป็นสกุลเงินดั้งเดิมของเครือข่าย API3<\/a> ซึ่งเป็นโครงการเหรียญ Web 3.0 ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างเวอร์ชันการกระจายศูนย์ของ API โดย API3 เป็นโทเค็นกำกับดูแลและรับใช้ชุมชน API3 DAO ในการดูแลโครงการ ในฐานะที่ API3 เป็นโทเค็นกำกับดูแล ใครก็ตามที่ถือเหรียญ API3<\/a> สามารถมีส่วนร่วมในการพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการ โดยยังสามารถลงคะแนนในการเปลี่ยนแปลงและโครงการใหม่ๆ เกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีได้<\/p>\n โครงการ API3 เปิดตัวในเดือนธันวาคมปี 2020 และมีผู้ร่วมก่อตั้งสามคน คนแรกคือ Heikki Vanttinen ผู้มีประสบการณ์ด้านบล็อกเชนและสาขาที่เกี่ยวข้องอย่างมาก Vanttinen ผนึกกำลังกับ Burak Benligiray ผู้ซึ่งทำงานเป็น CTO ใน CLC Group ที่ก่อตั้งโดย Vanttinen สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มผู้ก่อตั้งคือ Saša Milić อาจารย์พิเศษที่ University of Toronto และเคยทำงานให้กับบริษัทอย่าง Facebook มาก่อน<\/p>\n ทั้งสามเปิดตัวโทเค็น API3 ในเดือนธันวาคม ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ $1.5 แต่มีความผันผวนหลายครั้ง มูลค่าของคริปโตเคอเรนซีเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดตัว และมีจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนเมษายน 2021 โดยราคาพุ่งแตะ $9 อย่างไรก็ตาม ราคาเริ่มลดลงอีกครั้งและลดลงอย่างมากในอีกสองเดือนต่อมาไปที่ $1.9 อีกครั้งหนึ่งที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างมากเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2021 โดยพุ่งไปแตะ $8 แต่มูลค่าก็ลดลงอีกครั้ง ปัจจุบัน มีการซื้อขายที่ $2.79 และมีมูลค่าตลาดเกือบ $241 ล้าน โดยรวมแล้ว API3 เป็นหนึ่งในเหรียญ web3 ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในขณะนี้<\/p>\n Livepeer เป็นโครงการกระจายศูนย์ Web 3.0 ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการสตรีมวิดีโอ แทนที่จะทำงานเหมือนบริษัทสตรีมวิดีโอแบบดั้งเดิมอย่าง YouTube ซึ่งเป็นโฮส จัดเก็บ และแจกจ่ายวิดีโอ Livepeer ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและใช้พลังการประมวลผลส่วนเกินจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยให้ผู้ออกอากาศ transcode ผลงานวิดีโอของตน<\/p>\n อย่างไรก็ตาม ผู้สตรีมมิ่งไม่จำเป็นต้องดูแลส่วนเทคนิค แต่เพียงแค่ต้องกดปุ่มสตรีมและถ่ายวิดีโอของตนบนแพลตฟอร์มที่สร้างบนบล็อกเชน Livestream เครือข่ายยังประกอบด้วยสิ่งที่เรียกว่า orchestrators ซึ่งให้ผู้ใช้พลังคอมพิวเตอร์ส่วนเกินของตนเพื่อ transcode การสตรีมและทำให้สามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ต่างๆ<\/p>\n เพื่อให้แน่ใจว่า orchestrators ทำงานอย่างมีคุณภาพ ผู้สตรีมมิ่งจะต้อง stake โทเค็น Livepeer จำนวนหนึ่ง โดย LPT ที่เป็นโทเค็นหลักของเครือข่ายยังมี delegators เนื่องจากหลายคนอาจไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็น orchestrators delegators สามารถ stake โทเค็น LPT ของตนกับ orchestrators ที่ต้องการและมีส่วนร่วมในความปลอดภัยของเครือข่าย ทั้ง orchestrators และ delegators จะได้รับรางวัลจากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้สตรีม<\/p>\n ดังที่กล่าวไว้แล้ว ผู้เข้าร่วมเครือข่ายจะ stake โทเค็นจำนวนหนึ่ง โดยเหรียญ LPT ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของระบบนิเวศ Livepeer เมื่อโครงการเปิดตัว จะไม่มีการทำ ICO เพื่อแจกจ่ายโทเค็น LPT แต่มีการแจกจ่ายเหรียญจำนวนหนึ่งให้กับสมาชิกของชุมชน Livepeer รวมถึงผู้ก่อตั้งและอดีตสมาชิกในทีมตั้งแต่เริ่มแรก แม้ว่า LPT จะเป็นโทเค็นดั้งเดิมของโครงการ แต่ไม่ได้ใช้เป็นวิธีการชำระเงิน และผู้ที่มีส่วนร่วมในเครือข่ายจะได้รับรางวัลเป็น ETH หรือ DAI<\/p>\n Theta เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการสตรีมวิดีโอแบบกระจายศูนย์ได้ โดยใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกและใช้แบนด์วิดท์ส่วนเกินของตน ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Mitch Liu และ Jieyi Long, Theta โดยการ private ICO และระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ โดยแจกจ่ายโทเค็น THETA จำนวน 30%<\/p>\n ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมเครือข่าย Theta และใช้แบนด์วิดท์และทรัพยากรการประมวลผลส่วนเกินเพื่อถ่ายทอดวิดีโอบนเครือข่าย สำหรับบริการเหล่านั้นจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็นดั้งเดิมตัวที่สองของ Theta ซึ่งก็คือ TFUEL โดยหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่สุดของระบบนิเวศ Theta คือการสตรีมวิดีโอคุณภาพสูงจากทุกมุมโลก<\/p>\n Theta สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และใช้โปรโตคอล Proof of Stake ซึ่งช่วยให้ผู้ถือโทเค็น THETA<\/a> สามารถ stake เหรียญของตนและได้รับรางวัลจากการทำเช่นนั้น คุณสามารถ stake เหรียญ THETA และเป็นผู้มีส่วนร่วมในเครือข่ายในฐานะ Validator และ Guardian สำหรับ Validator คุณจะต้อง stake THETA 10 ล้านเหรียญ ในขณะที่การเป็น Guardian จะต้องใช้ THETA เพียง 100,000 เหรียญ<\/p>\n Theta ยังให้บริการ Theta wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้สำหรับเก็บสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังสามารถใช้สำหรับการสร้าง dApps และ dApp สตรีมวิดีโอแรกที่สร้างบนเครือข่าย Theta คือ Silver.tv แม้ว่า Theta จะสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum ในตอนแรก แต่ปัจจุบันกำลังพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนของตัวเองและจะย้ายไปในอนาคต ซึ่งบล็อกเชน Theta ใหม่แตกต่างด้วยอัตราการทำธุรกรรมที่สูงและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ<\/p>\n โทเค็น THETA ของ Theta ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 45 ตามมูลค่าตามราคาตลาด ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด 100 อันดับแรก<\/p>\n Polkadot ก่อตั้งโดยหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Ethereum เป็นโครงการ DeFi ที่มีเป้าหมายเพื่อรวมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเพื่อสร้างแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ผู้ใช้สามารถดำเนินการผ่านบล็อกเชนของตนเองได้ ค่อนข้างคล้ายกับโครงการบล็อกเชนยอดนิยมอย่าง Ethereum และ Cosmos แต่ Polkadot อ้างว่าแก้ปัญหาเกี่ยวกับอุตสาหกรรม DeFi ได้มากกว่า<\/p>\n ปัญหาหลักที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนได้แก่ ความปลอดภัย ความสามารถในการทำงานร่วมกัน การกระจายอำนาจ และความสามารถในการขยายขนาด ในขณะที่บล็อกเชนส่วนใหญ่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เพียงหนึ่งหรือบางส่วน แต่ Polkadot เสนอธุรกรรมที่ปรับขนาดได้และปลอดภัย ในขณะที่ยังคงรักษาการกระจายอำนาจ กลไกฉันทามติที่เป็นรากฐานของโครงการ Polkadot เรียกว่า NPoS (nominated Proof of Stake)<\/p>\n สิ่งนี้ช่วยให้มีบล็อกเชนสองประเภท ประเภทแรกคือ Relay chain ซึ่งเป็นบล็อกเชนหลักและประเภทที่สองคือ Parachains ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เชนหลักใช้เพื่อสรุปธุรกรรมและสามารถประมวลผลธุรกรรมได้สูงถึง 1,000 รายการต่อวินาที Parachains เข้ากันได้กับบล็อกเชนหลักและได้รับการปกป้องโดย Relay chain<\/p>\n สกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของ Polkadot คือ DOT ซึ่งเป็นโทเค็นการกำกับดูแลและมีบทบาทสำคัญในความปลอดภัยของเครือข่าย ผู้ใช้สามารถ stake โทเค็น DOT ของตนเพื่อช่วยเสริมความปลอดภัยของเครือข่าย สิทธิในการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับโครงการ และได้รับรางวัล และสามารถมีบทบาทต่าง ๆ โดยการ stake เหรียญ DOT ไม่ว่าจะเป็น validators, nominators, fishermen, และ collator<\/p>\n นอกจากนี้ DOT ยังใช้ภายใต้ Polkadot DAO ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของโครงการ ผู้ถือ DOT สามารถเสนอการเปลี่ยนแปลงและลงคะแนนเสียงในโครงการ และระดับการมีส่วนร่วมขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญที่ถือ หน่วยงานอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญใน DAO ได้แก่ สภา (Council) ซึ่งได้รับการคัดเลือกโดยผู้ถือ DOT และคณะกรรมการด้านเทคนิค<\/p>\n ในปัจจุบัน เหรียญ DOT ของ Polkadot เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 11 ตามมูลค่าตลาด มีอุปทานหมุนเวียนของโทเค็น DOT 987.5 ล้านเหรียญ และไม่มีอุปทานสูงสุด มูลค่าสำหรับโทเค็น DOT แต่ละเหรียญคือ $6.82 ซึ่งทำให้มีมูลค่าทางการตลาดเกือบ $8.6 พันล้าน<\/p>\n Chainlink เป็นโครงการเหรียญ Web 3.0 ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 โดย Smart Contract Company จุดประสงค์หลักคือการปรับปรุงวิธีการทำงานของ smart contract และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับข้อมูลโลกแห่งความเป็นจริงที่น่าเชื่อถือ smart contract คือหลักการหลักที่เป็นรากฐานของบล็อกเชน ซึ่งดำเนินการตามที่กำหนดไว้เมื่อเงื่อนไขบางอย่างเป็นจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม smart contract ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาแหล่งข้อมูลภายนอก และ Chainlink มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับประเด็นนี้<\/p>\n โครงการต้องการแก้ไขปัญหานี้ผ่านสิ่งที่เรียกว่าออราเคิล (Oracle) ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลหลักของ smart contract เพื่อให้แน่ใจว่าออราเคิลให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ Chainlink ใช้คะแนนชื่อเสียงเพื่อให้ออราเคิลเป็นเครดิตสำหรับข้อมูลที่แต่ละคนให้ไว้ นอกจากนี้ ชื่อเสียงของออราเคิลยังขึ้นอยู่กับจำนวนโทเค็น LINK ที่ถือ ซึ่งเป็นเหรียญดั้งเดิมของบล็อกเชน Chainlink<\/p>\n LINK มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของ Chainlink นี่ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซีสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เป็นการใช้ในเครือข่าย โดยถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลายอย่างภายในบล็อกเชน ตัวอย่างเช่น ถูกใช้เพื่อจ่ายค่าตอบแทนให้กับโหนดสำหรับการย้ายข้อมูลเข้าและออกจากบล็อกเชนอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังใช้เพื่อสร้างการโต้ตอบที่น่าเชื่อถือระหว่างออราเคิลและผู้สร้าง smart contract<\/p>\n Filecoin เป็นโครงการคริปโตเคอเรนซีที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูล คล้ายกับบริการแบบดั้งเดิม เช่น Google และ Dropbox แต่ความแตกต่างระหว่าง Filecoin และผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมคือระบบของ Filecoin อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่า Filecoin มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ในขณะที่กรณีของบริษัทแบบดั้งเดิมนั้นข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บรักษาโดยหน่วยงานเดียว<\/p>\n ผ่านการนำเสนอบริการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ Filecoin ทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยและเป็นอิสระจากการควบคุมใดๆ เพื่อทำให้สิ่งนี้เป็นจริง บล็อกเชนของ Filecoin เชิญชวนให้เหมืองขุดมาจัดหาพลังการประมวลผลและค้นหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับผู้ใช้ ด้วยการทำงานนี้ เหมืองขุดจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Filecoin ซึ่งก็คือ FIL<\/a> อย่างไรก็ตาม การจัดหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เหมืองขุดยังต้องยืนยันว่าจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ด้วยวิธีนี้ เหมืองจึงขุดบล็อกใหม่บนบล็อกเชนของ Filecoin และได้รับรางวัลจากค่าธรรมเนียมธุรกรรม<\/p>\n ในทางกลับกัน ผู้ให้บริการจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย Filecoin เนื่องจากกระบวนการไม่ได้ถูกควบคุมโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และอาจมีเหมืองขุดจำนวนมากในตลาดที่แข่งขันกันเพื่อขายบริการของตน ราคาจึงไม่คงที่ และผู้ใช้สามารถเลือกราคาต่ำสุดที่มีในตลาดได้ ตามที่ Filecoin ระบุ เมื่อจำนวนเหมืองขุดเพิ่มขึ้น พื้นที่จัดเก็บข้อมูลจะมีมากขึ้นและการแข่งขันจะเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ราคาที่ถูกลง<\/p>\n โทเค็นดั้งเดิมของ Filecoin คือ FIL ซึ่งเป็นยูทิลิตี้โทเค็นที่ให้บริการโครงการ ซึ่งถูกใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรม ให้รางวัลแก่เหมืองขุด และใช้สำหรับธุรกรรมอื่นๆ บนเครือข่าย FIL เปิดตัวในปี 2017 และทีมสามารถระดมทุนได้ 257 ล้านดอลลาร์ในช่วง ICO FIL ปัจจุบันอยู่ในกลุ่มสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด 50 อันดับแรก ทำให้เป็นโครงการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก<\/p>\n Basic Attention Token หรือที่เรียกว่า BAT ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงการตลาดดิจิทัลในลักษณะที่เหมาะสมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ ทั้งผู้เผยแพร่ ผู้สร้าง และผู้ลงโฆษณา โดยหนึ่งในปัญหาหลักของการโฆษณาคือ ผู้ใช้มักข้ามโฆษณาและไม่ชอบดูเนื้อหาโฆษณา BAT มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ชมโฆษณาได้รับรางวัลสำหรับการดูโฆษณานั้น<\/p>\n โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน Ethereum โครงการคริปโตเคอเรนซีนี้ดำเนินการบนเบราว์เซอร์ที่เรียกว่า Brave ซึ่งสร้างขึ้นโดยทีมเดียวกันกับที่เปิดตัวโทเค็น BAT<\/a> โดยหนึ่งในสมาชิกของทีมคือ Brender Eich ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ JavaScript แพลตฟอร์ม Brave มีผู้เกี่ยวข้องหลักสามฝ่าย ได้แก่ ผู้เผยแพร่ ซึ่งสร้างเนื้อหาและโปรโมตโฆษณา ผู้ลงโฆษณา ผู้ซึ่งต้องการให้แน่ใจว่ามีการดูโฆษณาของตน และผู้ชม ผู้ซึ่งจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น BAT สำหรับโฆษณาที่ดูหรือแชร์<\/p>\n แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นในปี 2017 และได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเร็วๆ นี้ ประกาศว่ามีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนต่อเดือนและผู้ใช้งานมากกว่า 15.5 ล้านคนต่อวัน โทเค็น BAT เป็นหนึ่งในโครงการคริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุด 100 อันดับแรกและมีประสบการณ์ ICO ที่ยอดเยี่ยม ระหว่างการเสนอขายเหรียญครั้งแรก มีการขายโทเค็น BAT 1 พันล้านเหรียญภายในเวลาเพียง 30 วินาที ระดมทุนได้มากกว่า 35 ล้านดอลลาร์<\/p>\n หากคุณคุ้นเคยกับประวัติของอินเทอร์เน็ต ก็เป็นเช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ อินเทอร์เน็ตก็เติบโตและวิวัฒนาการเช่นกัน ขั้นตอนแรกของวิวัฒนาการ World Web ถูกเรียกว่า Web 1.0 และมีอายุตั้งแต่ปี 1991-2004 Web 1.0 ไม่ค่อยน่าดึงดูดนัก โดยเป็นเรื่องของการรวมกันของหน้าเว็บที่ผู้เยี่ยมชมสามารถรับข้อมูลได้ แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ซึ่งไม่น่าดึงดูดเท่าไรนัก<\/p>\n ในปี 1999 Darcy DiNucci ได้บัญญัติคำว่า Web2 ในระหว่างการประชุม ซึ่งใช้เพื่ออธิบายการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้เว็บน่าดึงดูดและเหมาะกับผู้ใช้ Web 2.0 คืออินเทอร์เน็ตที่เรากำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนำพามาซึ่งเครื่องมือทางเทคนิคมากมายเพื่อให้ผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็น แบ่งปันผลงาน งานศิลปะ ประสบการณ์ และอื่นๆ เครื่องมือที่เน้นผู้ใช้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ โซเชียลมีเดีย พอดแคสต์ บล็อก การโหวต และอื่นๆ<\/p>\n ในปัจจุบัน เรากำลังเป็นพยานถึงการเปลี่ยนแปลงจาก Web 2 เป็น Web3 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำเสนออินเทอร์เน็ตรุ่นที่สามที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น บล็อกเชนและ Smart Contracts ลักษณะสำคัญของ Web 3.0 คือการกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักของสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ ดังนั้น โครงการคริปโตทั้งหมดที่เสนอบริการที่คล้ายกันในฐานะส่วนหนึ่งของ Web2 แต่ผสานรวมการกระจายอำนาจ บล็อกเชน หรือ Smart Contracts จึงเรียกว่าคริปโตเคอเรนซี Web 3.0<\/p>\n ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดที่แยก Web 3.0 ออกจาก Web2 คือผู้ใช้มีการควบคุมข้อมูลของตนเองมากขึ้น เนื่องจากด้วยการนำการกระจายอำนาจมาใช้ Web3 มีเป้าหมายเพื่อลดบทบาทของคนกลางในการประมวลผลธุรกรรมและให้อิสระแก่ผู้ใช้ในการเลือกคุณสมบัติที่ต้องการใช้ ซึ่งในแพลตฟอร์มรวมศูนย์ เครื่องมือหลายอย่างอาจไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับบางคน<\/p>\n Web 3.0 ต้องการขจัดข้อจำกัดเหล่านี้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทำงานตามโค้ดที่ไม่ได้ควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานใดๆ ตัวอย่างเช่น หาก Google มีบริการคลาวด์ แต่ข้อมูลทั้งหมดของคุณถูกควบคุมโดยหน่วยงานเดียว Filecoin ทำแบบเดียวกันโดยใช้การกระจายศูนย์ ซึ่งกระจายข้อมูลของคุณไปยังผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลหลายราย<\/p>\n หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ซื้อขายคริปโตเคอเรนซีออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีโอกาสในการซื้อขายที่ไม่ซ้ำใครในที่เดียว เราขอแนะนำ OKX<\/a> เราถือว่า OKX เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อคริปโต Web 3.0 ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ความปลอดภัย ฟังก์ชันการใช้งาน ค่าธรรมเนียมต่ำ อินเทอร์เฟซผู้ใช้งาน เครื่องมือการเทรดคริปโต และอื่นๆ<\/p>\n นอกจากนี้ OKX ยังมีเหรียญ Web3 ที่หลากหลายและรองรับเหรียญ Web3 ชั้นนำส่วนใหญ่ที่รวมอยู่ในรายการของเรา นี่บ่งชี้ว่า OKX เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการกระจายพอร์ตการลงทุนคริปโต Web3 ของคุณ โดยโบรกเกอร์แห่งนี้ดำเนินงานในกว่า 200 ประเทศ<\/p>\n ก่อนจะแนะนำเหรียญ Web 3.0 ที่ควรซื้อ ผู้เชี่ยวชาญของเราได้วิจัยตลาดอย่างละเอียดเพื่อหาเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด ต่อไปนี้คือปัจจัยที่เราคำนึงถึงในระหว่างการค้นคว้า<\/p>\n ความปลอดภัย<\/b> เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณา ดังนั้นเราจึงตรวจสอบเสมอว่าโครงการคริปโตเคอเรนซีนั้นเชื่อถือได้และปลอดภัยหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญเสมอที่จะตรวจสอบว่าโครงการใช้บล็อกเชนที่ปลอดภัยและสามารถรับประกันความปลอดภัยได้ ด้วยคริปโตที่มีอยู่มากมายในตลาด โครงการจำนวนมากจึงเป็นการหลอกลวงหรือมีการเก็งกำไร ดังนั้นจึงควรศึกษาโครงการเสมอเพื่อดูว่ามีอะไรให้บ้างก่อนลงทุน<\/p>\n สิ่งสำคัญต่อมาที่ต้องพิจารณาคือความนิยม<\/b>ของคริปโตเคอเรนซี หากโครงการเสนอโซลูชันที่ไม่เหมือนใครสำหรับอุตสาหกรรมการเงินแบบกระจายศูนย์และมีเทคโนโลยีที่สามารถสร้างความนิยมอย่างมากในอนาคต ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุน หากได้รับความนิยมในอนาคต ก็จะดึงดูดผู้สนใจจำนวนมากที่จะซื้อเหรียญนั้น<\/p>\n คุณยังสามารถพิจารณากรณีการใช้งาน<\/b>ของเหรียญ ซึ่งบ่งบอกถึงรูปแบบที่สามารถใช้ได้ โดยปกติแล้ว โทเค็น Web 3.0 มีบทบาทหน้าที่แน่นอนภายในโครงสร้างพื้นฐานของตน สามารถใช้เป็นโทเค็นการกำกับดูแล โทเค็นยูทิลิตี้ ทรัพย์สินสำหรับ staking สำหรับการ yield farming และอื่นๆ ยิ่งมีกรณีการใช้งานมากเท่าไร ก็จะยิ่งได้รับความต้องการมากขึ้นเมื่อได้รับความนิยม<\/p>\n หนึ่งในเหตุผลที่ดีในการซื้อเหรียญ Web 3.0 ตอนนี้คือ Web 3.0 ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนา โครงการคริปโตเคอเรนซีต่างๆ เฟื่องฟูในช่วงที่ผ่านมาและยังคงใหม่มาก โครงการเหล่านี้ต้องใช้เวลาอีกมากในการพิสูจน์เทคโนโลยีของตน และเมื่อประสบความสำเร็จตามแผนแล้ว ก็จะได้รับความสนใจอย่างมาก มูลค่าของเหรียญจะเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดกำไรสูงสำหรับผู้ที่ลงทุนในช่วงแรก<\/p>\n แต่ก็มีอีกด้านหนึ่งที่ต้องพิจารณาความเสี่ยงหลายอย่างก่อนซื้อโทเค็น Web 3.0 ใดๆ คุณต้องพร้อมเสมอที่จะสูญเสียเงินของคุณ เนื่องจากความเสี่ยงในการลงทุนในคริปโตเคอเรนซีนั้นค่อนข้างสูง คุณไม่สามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าโครงการคริปโตเคอเรนซีนี้หรือโครงการไหนจะประสบความสำเร็จในอนาคตหรือไม่ หมายความว่าการลงทุนในเหรียญเว็บ 3.0 ต้องระมัดระวังและอิงตามงบประมาณที่มีอยู่ของคุณ<\/p>\n ด้วยโบรกเกอร์คริปโตเคอเรนซีออนไลน์มากมายในอุตสาหกรรม คุณอาจสับสนว่าแพลตฟอร์มใดเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อและเทรดเหรียญ Web 3.0 มีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกโบรกเกอร์คริปโตเคอเรนซี ดังนั้นคุณจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติหลายอย่างเพื่อหาว่าอันไหนเหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด หากคุณพบว่ากระบวนการนี้ใช้เวลานานและไม่มีเวลา ด้านล่างนี้เราได้ตรวจสอบโบรกเกอร์คริปโต 2 รายที่ดีที่สุด หนึ่งสำหรับมือใหม่และอีกหนึ่งสำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง<\/p>\n คุณลักษณะเฉพาะของ OKX คือแพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถโต้ตอบกัน พูดคุยในหัวข้อต่างๆ และแม้แต่คัดลอกพอร์ตการลงทุนของนักเทรดผู้เชี่ยวชาญด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ในแง่ของค่าธรรมเนียมการเทรด OKX มีโครงสร้างราคาที่ดีมากที่สุดในตลาด มีเหรียญประมาณ 350 เหรียญให้เลือกใน OKX รวมถึงเหรียญ Web 3.0 ทั้งหมดที่เราแนะนำ<\/p>\n นอกเหนือจากคริปโตเคอเรนซีแล้ว Binance ยังมีตลาด NFT การแลกเปลี่ยนแบบ peer-to-peer และกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เรียกว่า Trust Wallet ซึ่งคุณสามารถเก็บคริปโตของคุณไว้ได้หลังจากซื้อ สำหรับผู้ที่ชอบเทรดผ่านมือถือเป็นหลัก Binance มีแอปมือถือขั้นสูงที่ใช้ได้ทั้งบนระบบ iOS และ Android Binance เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยกลไกรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น 2FA, SMS, whitelisting และอื่นๆ<\/p>\n<\/div><\/div>\n หากคุณเชื่อในอนาคตของเหรียญ Web 3.0 และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างมาก คุณอาจต้องการลงทุนบางส่วนใน Web 3.0 สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะซื้อเหรียญ Web 3.0 ได้อย่างไร เราได้รวมคำแนะนำทีละขั้นตอนที่อธิบายกระบวนการทั้งหมดอย่างละเอียด<\/p>\n กระดานเทรดคริปโตเคอเรนซีและโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงทั้งหมดต้องการให้คุณเปิดบัญชีออนไลน์เพื่อซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตน เนื่องจาก OKX เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยเช่นกัน ขั้นตอนแรกของคุณคือไปที่แพลตฟอร์มและสร้างบัญชี มีขั้นตอนสำคัญ 2 ขั้นตอนเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ ขั้นแรกคุณต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็น อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์เพื่อสร้างบัญชี ถัดไป คุณต้องยืนยันบัญชีของคุณโดยให้หลักฐานยืนยันที่อยู่และตัวตน<\/p>\n เมื่อคุณสร้างบัญชีส่วนตัวเสร็จแล้ว คุณจำเป็นต้องมีเงินในบัญชีเพื่อที่จะสามารถซื้อคริปโตเคอเรนซี<\/a>ได้ วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการโอนเงินเข้าบัญชีของคุณ ได้แก่ บัตรเครดิตและบัตรเดบิต OKX จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากหรือค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสำหรับการฝากเงินใดๆ หากคุณฝากเงินเข้าบัญชีเป็นสกุลเงิน USD สำหรับสกุลเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการภายนอกอย่าง Mercuryo หรือ Moonpay จะคิดค่าธรรมเนียมและส่วนต่างเล็กน้อย<\/p>\n ตอนนี้เมื่อคุณมีบัญชีที่ผ่านการยืนยันและมีเงินแล้ว คุณก็พร้อมที่จะซื้อเหรียญ Web 3.0 แล้ว ไปที่ส่วนตลาดคริปโตเคอเรนซีของ OKX เพื่อดูว่า OKX รองรับเหรียญ Web 3.0 ใดบ้าง หากคุณตัดสินใจแล้วว่าต้องการซื้ออะไร เพียงแค่ค้นหาชื่อและคลิกที่ผลลัพธ์แรก OKX จะพาคุณไปยังหน้าแยกต่างหากที่ออกแบบมาสำหรับเหรียญนั้น ซึ่งคุณจะพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญ คู่มือ และกราฟเพื่อช่วยคุณในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย<\/p>\n เมื่อคุณพร้อมที่จะซื้อเหรียญแล้ว ให้คลิกปุ่ม “Trade” ถัดจากชื่อเหรียญและเลือก “Buy” ในหน้าต่างนี้ คุณเพียงแค่เพิ่มจำนวนเหรียญที่คุณต้องการซื้อและทำรายการให้เสร็จสิ้นเพื่อรับเหรียญในกระเป๋าเงินของคุณ<\/p>\n เนื่องจากตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง นักเทรดจึงใช้โอกาสในการทำกำไรระยะสั้นโดยการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของเหรียญ หากคุณต้องการทำเงินจากการเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวัน คุณจะต้องใช้โบรกเกอร์ที่ทำงานได้รวดเร็วและคุ้มค่า ในรายการด้านล่าง คุณจะพบโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดเหรียญ Web 3.0<\/p>\n ปัจจุบันเราอยู่ในกระบวนการของการนำ Web 3.0 มาใช้ โครงการเหรียญ Web 3.0 มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้และช่วยทำให้วิสัยทัศน์ของอินเทอร์เน็ตที่กระจายอำนาจเป็นจริง มีเหรียญ Web 3.0 ให้เลือกลงทุนมากมายในปี 2025 และหลายเหรียญมีศักยภาพที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตตและมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตอินเทอร์เน็ต<\/p>\n ในคู่มือนี้ เราได้แนะนำรายชื่อว่าเหรียญ web3.0 มีอะไรบ้าง และเหรียญไหนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและได้รับการสนับสนุนจากทีมงานและทรัพยากรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ของ Web 3.0 ก็ยังคลุมเครือในบางแง่และเราไม่สามารถมั่นใจได้ถึงความสำเร็จ นั่นหมายความว่าคุณต้องระมัดระวังเมื่อลงทุนในตลาด Web 3.0 และซื้อเหรียญ Web3 เท่าที่คุณพอจะเสียได้<\/p>\n โครงการ Web 3.0 ที่ดีที่สุดในการซื้อตอนนี้คือ Wall Street Pepe ซึ่งเป็นเหรียญมีมใหม่ล่าสุดที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล<\/p>\n [cbm_presale_toplist id=”3318″]\n<\/p> \n\t\t\t\t\t\tในห้าวันที่ผ่านมา จำนวนโครงการเหรียญ Web 3.0 เติบโตอย่างรวดเร็ว เราได้จัดทำรายการแนะนำที่รวบรวมโครงการเหรียญ Web 3.0 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คริปโตเหล่านี้มีบริการอินเทอร์เน็ตเพื่อปรับปรุงด้านต่างๆ เช่น การจัดเก็บข้อมูล การโฆษณา การสตรีมวิดีโอ และอื่นๆ เหรียญ Web3 ที่น่าจับตามองและน่าลงทุนในปีนี้ ได้แก่ Wall Street Pepe, Crypto All Stars, Biconomy, API3, Livepeer, Theta, Polkadot, Chainlink, Filecoin และ Basic Attention Token <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tในการซื้อเหรียญ Web 3.0 คุณต้องลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีออนไลน์กับกระดานเทรดคริปโตเคอเรนซีที่เชื่อถือได้ ซึ่งรองรับเหรียญ Web 3.0 เมื่อคุณมีบัญชีแล้ว คุณสามารถฝากเงินบนบัญชีกระดานเทรดของคุณและเริ่มซื้อเหรียญ Web 3.0 ได้ <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tคริปโตเคอเรนซี Web 3.0 ถูกสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการกระจายอำนาจของอินเทอร์เน็ตและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของอินเทอร์เน็ตอย่าง Web 3.0 <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tPolkadot เป็นคริปโตเคอเรนซี Web 3.0 ที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตลาด ด้วยมูลค่าปัจจุบันที่ $7.5 และมีอุปทานหมุนเวียน 987.5 ล้านโทเค็น DOT จึงทำให้มีมูลค่าตลาดเกือบ $7.5 พันล้าน โทเค็น Web3 อื่นๆ ที่ติดอันดับ 100 คริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ Chainlink, Filecoin, Theta, Basic Attention Token และอื่นๆ <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t\n<\/p>\n
2. Snorter Token – เหรียญมีมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการเทรดและการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด<\/h3>\n
<\/p>\n
3. Bitcoin Bull – เหรียญมีม Bitcoin ที่แจกแอร์ดรอปเป็น BTC จริง!<\/h2>\n
<\/p>\n
4. MIND of Pepe – เหรียญมีม AI Agent ปฏิวัติวงการการเทรด<\/h2>\n
<\/p>\n
5. BEST Token – เหรียญพรีเซลใหม่ พร้อมประโยชน์มากมายที่รอคุณอยู่ ภายในระบบนิเวศของ BEST<\/h3>\n
<\/p>\n
6. SUBBD: แพลตฟอร์ม AI ที่พร้อมพลิกโฉมวงการ Content Creation<\/h3>\n
<\/p>\n
7. Biconomy – เหรียญ Web 3.0 ที่ลิสใน OKX<\/h3>\n
<\/p>\n
8. Sui – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด มาพร้อมศักยภาพมหาศาล<\/h3>\n
<\/p>\n
9. Manta – เหรียญ Web 3.0 ที่เน้นเรื่อง Scalability สร้างอยู่บน Polkadot<\/h3>\n
<\/p>\n
10. API3 – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน DeFi<\/h3>\n
<\/p>\n
11. Livepeer – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด สำหรับการสตรีมมิ่งแบบสด<\/h3>\n
<\/p>\n
12. Theta – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีมวิดีโอ<\/h3>\n
<\/p>\n
13. Polkadot – เหรียญ Web 3.0 ที่มี market cap ขนาดใหญ่ที่สุด<\/h3>\n
<\/p>\n
14. Chainlink – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนา Smart Contract<\/h3>\n
<\/p>\n
15. Filecoin – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดสำหรับบริการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์<\/h3>\n
<\/p>\n
16. Basic Attention Token – เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดสำหรับบริการโฆษณาดิจิทัล<\/h3>\n
<\/p>\n
เหรียญ Web 3.0 คืออะไร?<\/h2>\n
<\/p>\n
กระดานเทรดที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อเหรียญ Web3<\/h2>\n
<\/p>\n
เราตรวจสอบเหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดในการลงทุนอย่างไร<\/h2>\n
<\/p>\n
เหรียญ Web 3.0 เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?<\/h2>\n
<\/p>\n
ซื้อและเทรดเหรียญ Web 3.0 ที่ไหน?<\/h2>\n
\n
\n
ซื้อเหรียญ Web 3.0 ทีละขั้นตอนด้วย OKX<\/h3>\n
ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียนบัญชีกับ OKX<\/h4>\n
<\/p>\n
ขั้นตอนที่ 2 ฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ<\/h4>\n
ขั้นตอนที่ 3 ค้นหาเหรียญ Web 3.0 ที่คุณต้องการซื้อ<\/h4>\n
<\/p>\n
ขั้นตอนที่ 4 ซื้อเหรียญ Web 3.0<\/h4>\n
<\/p>\n<\/div><\/div>\n
เทรดเหรียญ Web 3.0 ที่ไหน?<\/h2>\n
\n
\n
บทสรุป<\/h2>\n
คำถามที่พบบ่อย<\/h2>\n
เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดในการซื้อตอนนี้คืออะไร?<\/h3>
จะซื้อเหรียญ Web 3.0 ได้อย่างไร?<\/h3>
จุดประสงค์ของเหรียญ Web 3.0 คืออะไร?<\/h3>
เหรียญ Web 3.0 ที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของมูลค่าตลาดคืออะไร?<\/h3>