{"id":345,"date":"2024-06-21T10:57:00","date_gmt":"2024-06-21T10:57:00","guid":{"rendered":"https:\/\/insidebitcoins.com\/th\/?page_id=345"},"modified":"2025-05-22T11:42:56","modified_gmt":"2025-05-22T11:42:56","slug":"best-ai-coins","status":"publish","type":"page","link":"https:\/\/insidebitcoins.com\/th\/crypto\/best-ai-coins","title":{"rendered":"\u0e41\u0e19\u0e30\u0e19\u0e33 11 \u0e40\u0e2b\u0e23\u0e35\u0e22\u0e0d AI \u0e17\u0e35\u0e48\u0e14\u0e35\u0e17\u0e35\u0e48\u0e2a\u0e38\u0e14 \u0e1b\u0e35 2025"},"content":{"rendered":"
ปัจจุบัน โครงการคริปโต AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า AI จะกลายมาเป็นเมกะเทรนด์บนบล็อกเชน ซึ่งเราอาจจะเห็นได้จากการเติบโตของ ChatGPT ของ OpenAI, Generative AI และเทคโนโลยี Machine Learning และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น อุตสาหกรรมคริปโตก็มีนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการสร้าง “เหรียญ AI” เช่นกัน<\/p>\n
คาดว่าเหรียญ AI จะช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดโดยรวมของภาคส่วนคริปโตได้ เช่นในช่วงต้นปี 2023 ที่เหรียญ FET มีราคาพุ่งขึ้นกว่า 200% ในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว แสดงให้เห็นว่า ตลาดเหรียญคริปโต AI มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูดความสนใจและการลงทุนทั่วโลก<\/p>\n
เมื่อเทคโนโลยี AI และบล็อกเชนรวมเข้าด้วยกัน ความเป็นไปได้ก็จะไร้ขีดจำกัด ในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึงเหรียญ AI ที่ดีที่สุด 11 อันดับแบบเจาะลึก และทุกสิ่งที่คุณควรรู้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรลงทุนในเหรียญ AI ในปี 2025 หรือไม่<\/p>\n
โครงการคริปโตที่เพิ่งเปิดตัวไปหลายๆ โครงการก็เป็นเหรียญเกี่ยวกับ AI เราได้รวบรวมบรรดาเหรียญเกี่ยวกับ AI ที่ดีที่สุด 11 อันดับไว้ ไปดูกันดีกว่าว่า ในรายการของเรามีเหรียญ AI อะไรบ้าง:<\/p>\n
AI เป็นกระแสที่กำลังมาแรงในปี 2025 และในแต่ละวันที่ผ่านไป ประโยชน์ใช้งานของเทคโนโลยีที่ทรงพลังนี้ยิ่งแพร่หลายมากยิ่งขึ้น มีการคาดการณ์ว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จะส่งผลอย่างมากต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมคริปโตอย่างรวดเร็วและดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก และ ณ เวลาที่เขียน เหรียญเกี่ยวกับ AI ก็กำลังกลายมาเป็นกระแสหลัก<\/p>\n
ลองมาดูเหรียญเกี่ยวกับ AI ชั้นนำของปี 2025 กันให้ลึกมากขึ้นกันดีกว่า!<\/p>\n
MIND of Pepe<\/b><\/a> เป็นโครงการที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปฏิวัติวงการวงการคริปโตโดยเฉพาะ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างความงดงามและความตลกขบขันของวัฒนธรรมเหรียญมีมเข้ากับเทคโนโลยีปัญญญาประดิษฐ์หรือ AI<\/span><\/p>\n โครงการนี้ได้พัฒนา AI Agent ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเทรดให้แก่นักลงทุน โดย AI จะทำการรวบรวมข้อมูลจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น X และนำมาประมวลผลเพื่อวัดความรู้สึกหรือกระแสตลาดโดยใช้การวิเคราะห์ Hive-Mind Analysis และทำการนำเสนอข้อมูลแบบเจาะลึกให้แก่ผู้ถือเหรียญผ่านแพลตฟอร์ม<\/span><\/p>\n ความน่าสนใจคือข้อมูลจะถูกวิเคราะห์และประมวลผลโดย AI ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าข้อมูลจะมีความเป็นกลางและตรงไปตรงมา ซึ่งจะแตกต่างจากข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์โดยมนุษย์ที่อาจมีอคติหรือความชอบส่วนบุคคล<\/span><\/p>\n ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโครงการได้ระบุว่ายอดระดมทุนของ <\/span>MIND of Pepe<\/b><\/a> ในรอบพรีเซลใกล้แตะ 8 ล้านดอลลาร์แล้วในขณะนี้และตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง<\/span><\/p>\n ไปยัง MIND of Pepe<\/strong><\/span><\/a>\n<\/p> SUBBD<\/b><\/a> เป็นโทเค็นประจำ SUBB แพลตฟอร์ม Web 3.0 ที่ขับเคลื่อนโดย AI ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์รวมเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ทั้งในรูปแบบภาพและวิดีโอ <\/span><\/p>\n โดยโทเค็นจะถูกใช้เป็นสื่อกลางสำหรับการสมัครสมาชิก การเข้าถึงเนื้อหาระดับพรีเมียม และการมอบทิปให้แก่ครีเอเตอร์<\/span><\/p>\n อีกทั้งครีเอเตอร์ยังสามารถใช้โทเค็นเพื่อการใช้งานเครื่องมือ AI สำหรับการสร้างสรรค์เนื้อหาของตนเอง ได้แก่ ระบบโคลนเสียง AI ระบบสร้างภาพด้วย AI และระบบสร้างวิดีโอด้วย AI <\/span><\/p>\n SUBBD<\/b><\/a> เป็นโครงการที่กำลังเป็นที่จับตามองเพราะแพลตฟอร์มมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโครงการระบุว่าปัจจุบันนี้แพลตฟอร์มมีเนื้อหามากกว่า 2,000 รายการและมีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 250,000,000 ผู้ใช้งาน <\/span><\/p>\n นอกจากนี้ ผู้ถือเหรียญยังสามารถนำโทเค็นไปทำการ Stake เพื่อรับรายได้แบบ Passive โดยเว็บไซต์ได้ระบุว่ามีอัตราผลตอบแทนประจำปีแบบไดนามิกประมาณ 20%<\/span><\/p>\n ไปยัง SUBBD<\/strong><\/span><\/a>\n<\/p> Fetch.ai เป็นห้องแล็บวิจัยที่ทุ่มเทให้กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 และเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2019 ผ่านการเสนอขายโทเค็นแบบ Initial Exchange Offering (IEO) บน Binance เนื่องจากใช้ AI อัตโนมัติในการดำเนินการที่ใช้เครือข่ายข้อมูลทั่วโลก Fetch.ai จึงช่วยให้ทุกคนเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น ผ่านการให้โปรโตคอลเครือข่ายเข้ารหัสที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมเพื่อเข้าถึงข้อมูลความปลอดภัยได้<\/p>\n ประโยชน์ใช้งานที่เป็นรากฐานของโมเดล Fetch.AI ได้แก่ การปรับปรุงระบบกริดพลังงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มเทรด DeFi เครือข่ายการเดินทางและการขนส่ง และระบบดิจิทัลที่ซับซ้อนอื่นๆ แทบจะทั้งหมดที่ใช้ชุดข้อมูลขนาดใหญ่<\/p>\n FET เหรียญ AI ซึ่งเป็นเหรียญยูทิลิตี้ของ Fetch.ai ถูกใช้ใน Smart Contract และ Oracle บนแพลตฟอร์ม และพัฒนาขึ้นเพื่อสร้าง ค้นหา ฝึกฝน และปรับใช้ Digital Twin<\/p>\n ผู้ใช้งานสามารถสร้างและเปิดตัวสำเนาเครือข่ายของ Digital Twin ของตนโดยใช้ FET ได้ เมื่อใช้ FET นักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือที่ใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ซึ่งช่วยให้สามารถฝึกฝน Digital Twin ได้อย่างอิสระและนำมันไปปรับใช้ได้ทั่วทั้งเครือข่าย<\/p>\n การ Stake โทเค็น FET ทำให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของโหนดได้ ทำให้เครือข่ายน่าเชื่อถือและมีความถูกต้องมากขึ้น<\/p>\n เหรียญ AI คริปโตยอดนิยมนี้ลิสต์อยู่บน OKX<\/a> ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Social trading ที่นักลงทุนสามารถเชื่อมต่อกับนักลงทุนคนอื่นๆ ที่สนใจในคริปโตเคอเรนซี AI ได้<\/p>\n FET ติดอันดับเทรนด์คริปโตยอดนิยมบน CoinMarketCap ในปี 2025 ด้วยผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง<\/p>\n iExec เป็นหนึ่งในเหรียญ AI ที่เป็นเหรียญที่น่าลงทุน<\/a>ที่สุด เมื่อพูดถึงระบบกระจายตัวบนบล็อกเชน บล็อกเชนถูกใช้เพื่อตั้งโครงสร้างพื้นฐานตลาดกระจายตัวเพื่ออำนวยความสะดวกในการขายทรัพยากรคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน และแม้แต่ชุดข้อมูล<\/p>\n สิ่งนี้ทำได้โดยการจัดหากลุ่มเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่สามารถเข้าถึงได้เมื่อต้องการ ความหลากหลายของ iExec หมายความว่ามันจะถูกนำไปใช้เพื่อรองรับซอฟต์แวร์ในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่จำกัดเพียงแค่ Big Data, Healthcare, AI, Rendering และ Finance โดย iExec ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2016 เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่สำหรับการประมวลผลแบบคลาวด์<\/p>\n ดังนั้น iExec จึงใช้ XtremWeb-HEP ซึ่งเป็นโปรแกรม Desktop Matrix ที่ใช้งานคุณสมบัติต่างๆ เช่น ผู้ใช้งานหลายคน, แอปพลิเคชันหลายรายการ, การปรับใช้ภาพดิจิทัล, ทนทานต่อความผิดพลาด, การจัดการข้อมูล, โครงสร้างพื้นฐานส่วนตัว, ความปลอดภัย และอื่นๆ อีกมากมาย<\/p>\n ผู้ให้บริการทรัพยากรคอมพิวเตอร์เป็นกระดูกสันหลังของเครือข่าย iExec สิ่งเหล่านี้คือ iExec Worker ซึ่งสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายและรับ RLC เหรียญ AI ของเครือข่ายได้ตามการมีส่วนร่วม<\/p>\n ผ่าน iExec นักพัฒนาแอปสามารถเรียกเก็บค่าบริการสำหรับการเข้าถึงอัลกอริทึม และเจ้าของข้อมูลสามารถทำให้ชุดข้อมูลสำคัญเข้าถึงได้โดย Proof-of-Contribution (PoCo) แบบสาธารณะ ซึ่งเป็นกลไกฉันทามติที่ช่วยให้สามารถเกิดข้อตกลงได้แบบ Off-Chain Proof-of-Contribution นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการทรัพยากรบุคคลที่ 3 มีบล็อกเชนยืนยันได้ว่าทรัพยากรของพวกเขาถูกใช้อย่างไร<\/p>\n จากการสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum ทั้งหมด iExec ให้ DApps เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล และทรัพยากรการคำนวณได้อย่างง่ายดาย รวมถึง สามารถส่งมอบบริการประมวลผลประสิทธิภาพสูงตามความต้องการผ่านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เสมือนได้<\/p>\n ดังนั้น iExec จึงอำนวยความสะดวกในการคำนวณประสิทธิภาพสูง ราคาไม่แพงผ่านสถาปัตยกรรมคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับ DApps รุ่นใหม่ที่อิงจากบล็อกเชน เนื่องจากคลาวด์แบบกระจายศูนย์ทำให้การใช้อุปกรณ์ง่ายขึ้น ศูนย์ข้อมูลจึงสามารถมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น<\/p>\n Ocean Protocol เปิดให้บุคคลและองค์กรต่างๆ สามารถปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลและสร้างรายได้จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบนิเวศที่ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน OCEAN เหรียญ AI มาตรฐาน ERC-20 ถือเป็นศูนย์กลางของแพลตฟอร์มนี้<\/p>\n Publisher บน Ocean Protocol สามารถสร้างรายได้จากข้อมูล โดยยังคงควบคุมข้อมูลอยู่ ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงชุดข้อมูลที่ไม่สามารถเข้าถึงได้มาก่อนผ่าน Ocean Market ซึ่งสามารถซื้อ ใช้ หรือขายข้อมูลต่อได้ตามต้องการ<\/p>\n บริการข้อมูลแต่ละรายการบน Ocean Protocol จะแสดงโดยโทเค็นข้อมูลซึ่งห่อหุ้มชุดข้อมูล (encapsulate dataset) หรือบริการประมวลผลข้อมูล วิธีนี้ช่วยให้บุคคลที่ 3 สามารถเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลได้อย่างปลอดภัยภายในระบบที่ Publisher เป็นผู้ควบคุม<\/p>\n โทเค็นยูทิลิตี้ OCEAN มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยให้สิทธิ์ในการเลือกตั้งชุมชน การ Stake บนชุดข้อมูล และการทำธุรกรรมบน Ocean Market กลุ่ม AMM (Automated Market Maker) สำหรับโทเค็นข้อมูล OCEAN ช่วยควบคุมราคาโทเค็นข้อมูลตามกลไกของตลาด<\/p>\n Ocean Protocol ให้ทุกคนที่มีชุดข้อมูลน่าสนใจสามารถสร้างโทเค็นและแบ่งปันข้อมูลเหล่านั้นบน Ocean Market ได้ ทำให้ข้อมูลที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้กลายเป็นเข้าถึงได้ง่าย ผู้เผยแพร่ข้อมูลจะได้รับประโยชน์จากแหล่งรายได้ใหม่ๆ ส่วนนักวิชาการ นักวิเคราะห์ และสาธารณชนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงชุดข้อมูลที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น<\/p>\n ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ทรัพยากรของ Ocean Protocol เพื่อสร้างตลาดข้อมูลของตัวเองได้ ซึ่งทำได้โดยการฟอร์ก Ocean Protocol หรือใช้ Ocean Protocol React hooks ซึ่งให้การสนับสนุนและทรัพยากรอย่างครอบคลุมสำหรับการนำไปใช้งาน<\/p>\n ผู้ถือโทเค็น OCEAN จะมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศโดยการ Stake โทเค็นของตนบนชุดข้อมูลภายใน Ocean Market เพื่อมีส่วนร่วมโดยตรงในเศรษฐกิจของโทเค็นข้อมูลได้ เมื่อ Stake โทเค็นในกลุ่มโทเค็นข้อมูล OCEAN ผู้ถือโทเค็นจะกลายเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่อง และได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สร้างขึ้นจากกลุ่มโทเค็น<\/p>\n SingularityNET เป็นแพลตฟอร์มบนพื้นฐานบล็อคเชนที่ช่วยให้สามารถสร้าง แจกจ่าย และสร้างรายได้จากบริการ AI ผ่านตลาดที่เปิดกว้าง กระจายอำนาจ และทั่วโลก<\/p>\n แพลตฟอร์มนี้ใช้โทเค็นยูทิลิตี้ AGIX ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกดู ทดสอบ และซื้อบริการปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ SingularityNET ยังมีตลาดสำหรับนักพัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อจัดแสดงและขายผลิตภัณฑ์ รวมถึงเครื่องมือสำหรับติดตามประสิทธิภาพและยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ<\/p>\n Sophia ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหุ่นยนต์ที่คล่องตัวที่สุดในโลก ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานผู้บุกเบิกของ SingularityNET การบรรลุความเข้าใจทางภาษาอย่างถ่องแท้ถือเป็นเป้าหมายหลักของ SingularityNET ควบคู่ไปกับการพัฒนา OpenCog ซึ่งเป็น AI Framework ที่มุ่งเป้าไปที่ “ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง” ที่เทียบเคียงมนุษย์ได้<\/p>\n SingularityNET เปิดตัวในปี 2017 และระดมทุนได้กว่า 36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ<\/a> อย่างรวดเร็วผ่านการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ICO) ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน<\/p>\n SingularityNET โดดเด่นในฐานะตลาดแห่งแรกที่ลูกค้าสามารถทดสอบบริการ AI ก่อนชำระเงินได้ ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้เครื่องมือและไลบรารี AI ได้อย่างง่ายดาย<\/p>\n พอร์ทัล Request for AI (RFAI) ของ SingularityNET ช่วยเชื่อมต่อบุคคลที่ต้องการบริการ AI เฉพาะทางกับชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเริ่มใช้งานเครื่องมือ AI ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว และให้นักพัฒนาได้รับ AGIX เหรียญ AI ของเครือข่ายเป็นผลตอบแทน<\/p>\n การเติบโตของ SingularityNET ช่วยให้ประโยชน์ใช้งานของ AGIX ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง<\/p>\n ฟังก์ชัน SNEP ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2020 ช่วยให้ผู้ถือ AGIX สามารถลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการปรับปรุงเครือข่ายได้ นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Staking ที่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2020 ยังช่วยให้ผู้ถือสามารถ Staking โทเค็นเพื่อแลกกับรางวัลได้อีกด้วย<\/p>\n SingularityNET ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Hanson Robotics เพื่อเปิดตัว Awakening Health ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ Grace ซึ่งเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์เปิดตัวของบริษัท<\/p>\n บล็อคเชน Velas โดดเด่นด้วยความสามารถในการจัดการธุรกรรมได้มากถึง 75,000 รายการต่อวินาที ควบคู่ไปกับความปลอดภัยระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมและมีค่าใช้จ่ายเกือบเป็นศูนย์<\/p>\n ระบบนิเวศของ Velas ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์แบบกระจายอำนาจที่สร้างขึ้นบนบล็อคเชน (โดยมี VLX เหรียญ AI ของเครือข่ายสำหรับใช้งานบนระบบนิเวศ) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสะดวกและข้อดีของการใช้โซลูชันแบบกระจายอำนาจและโอเพ่นซอร์ส<\/p>\n คุณสมบัติหลักที่ทำให้ Velas โดดเด่น ได้แก่:<\/p>\n คุณสมบัติเหล่านี้ร่วมกันทำให้ Velas เป็นระบบนิเวศบล็อคเชนที่ไม่ซ้ำใคร โดยผสมผสานธุรกรรมความเร็วสูง มาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และแอปพลิเคชันที่เป็นมิตรซึ่งออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมแบบกระจายอำนาจ<\/p>\n VIDT DAO เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่รับรองความน่าเชื่อถือที่ตรวจสอบได้ทั่วทั้งระบบนิเวศ Web3 โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะ (public blockchain) ขั้นสูงและการประทับเวลา (timestamp)<\/p>\n นักพัฒนาและผู้ใช้ Web3 สามารถใช้เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สของ VIDT DAO เพื่อลงทะเบียนและประทับเวลาสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ใบรับรอง ข้อมูลเซนเซอร์ และเฟิร์มแวร์ ทำให้ VIDT DAO สร้างความน่าเชื่อถือในกระบวนการต่างๆ ได้ด้วยการตรวจสอบข้อมูลและบันทึกต่างๆ<\/p>\n ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น Procentec, Nyenrode, AmSpec, DeGO, IBM และ Amsterdam Vintage Watches ได้เริ่มใช้งาน VIDT Validation Tech แล้ว<\/p>\n แพลตฟอร์ม VIDT DAO จะใช้เหรียญ AI ของเครือข่าย VIDT ในการยืนยันธุรกรรม ธุรกรรมแต่ละรายการจะบันทึกแฮชไฟล์ ประทับเวลา และที่อยู่บล็อคเชนเอาไว้ ซึ่ง VIDT จะใช้งานได้ทั้งบน Ethereum (ERC-20) และ Binance Smart Chain (BEP-20)<\/p>\n VIDT DAO ทำงานเป็นแพลตฟอร์มตรวจสอบความถูกต้องของบล็อคเชนรุ่นที่ 3 ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกและติดตามแหล่งที่มาของข้อมูล การเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของ และระบุกิจกรรมฉ้อโกงโดยใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บบล็อคเชนได้<\/p>\n บนบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจ (บล็อคเชน) ผู้คนสามารถตรวจสอบและยืนยัน Chain of Custody ใดๆ ได้ ผ่านทาง API ของโครงการ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ในภาษาต่างๆ เช่น Python, JS และ Java ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสบนบล็อคเชนได้อย่างปลอดภัย<\/p>\n นักพัฒนาให้คุณค่ากับเทคโนโลยี VIDT สำหรับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาผ่านการประทับเวลาและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและคุ้มค่าสำหรับการขายสินทรัพย์ดิจิทัล<\/p>\n องค์กรและบุคคลต่างๆ สามารถใช้บริการคลาวด์ที่เชื่อมโยงกับ VIDT API ซึ่งเข้ากันได้กับภาษาการเขียนโปรแกรมหลักๆ เป็นวิธีการที่ประหยัดและง่ายดายในการเริ่มใช้งานโครงสร้างพื้นฐานของ VIDT DAO ได้<\/p>\n Smart Contractของ VIDT DAO ระบุผู้จัดทำไฟล์และจัดเก็บแฮชไฟล์อย่างปลอดภัยในรูปแบบเข้ารหัสบนบล็อคเชน ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น ข้อบังคับทั่วไปเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล (GDPR)<\/p>\n Cortex เป็นเครือข่ายบล็อกเชนสาธารณะแบบเพียร์ทูเพียร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานส่งและเรียกใช้ระบบ AI บนระบบแบบกระจาย (Distributed System) ได้<\/p>\n นี่คือแพลตฟอร์ม AI โอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการรวมโมเดล AI เข้ากับ Smart Contract และพัฒนาแอปกระจายอำนาจที่ใช้ AI (dApps) โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ปัญญาประดิษฐ์เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น<\/p>\n แพลตฟอร์มนี้มีความยืดหยุ่นมากกว่าสิ่งที่มีอยู่ใน Smart Contract ของ Ethereum ในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด เครือข่าย Cortex รองรับแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ (dApps) ที่หลากหลายซึ่งขับเคลื่อนโดย AI รวมถึง Stablecoin ที่ควบคุมโดย AI เกมคริปโตที่เล่นเพื่อรับเงิน และสินเชื่อคริปโต<\/p>\n หัวใจสำคัญของ Cortex คือ Cortex Virtual Machine ซึ่งขับเคลื่อนการทำงานด้วย AI โดยใช้การประมวลผลด้วย GPU ของเครือข่าย ทำให้ไม่จำต้องใช้หน่วยประมวลผลกลางแบบดั้งเดิมและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณ<\/p>\n นักพัฒนาของ Cortex สามารถสร้างอัลกอริทึม AI ของตัวเองและสร้างรายได้โดยการขายเป็น CTXC เหรียญ AI ของเครือข่าย เมื่อมูลค่าของ CTXC เพิ่มขึ้น ก็จะจูงใจให้นักพัฒนาจำนวนมากขึ้นเข้าร่วมระบบนิเวศของ Cortex ส่งเสริมให้มีแอปพลิเคชัน AI สำหรับ dApps ที่หลากหลายยิ่งขึ้น<\/p>\n dKargo ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์แบบร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความไว้วางใจระหว่างพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ทั่วโลก นักลงทุนโทเค็นใน dKargo สามารถทำธุรกรรมในตลาดที่ปราศจากความไว้วางใจสำหรับการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ได้<\/p>\n กรอบงานนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับกระบวนการซัพพลายเชนให้คล่องตัวยิ่งขึ้นได้โดยการบูรณาการบริการจากผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะ<\/p>\n DKA เหรียญ AI ของเครือข่ายถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศ dKargo ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการชำระเงินสำหรับบริการด้านโลจิสติกส์ของ dKargo แล้ว DKA ยังใช้สำหรับการลงคะแนนเสียงและการกำกับดูแลภายในระบบนิเวศอีกด้วย ผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้อง Stake เหรียญ DKA เพื่อให้บริการด้านโลจิสติกส์บนแพลตฟอร์ม dKargo<\/p>\n Numeraire เป็นเทคโนโลยีบน Ethereum ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาและความน่าเชื่อถือของโมเดล Machine Learning ผ่านการทดลองอย่างจริงจังในด้าน Data Science<\/p>\n แพลตฟอร์มนี้มุ่งหวังที่จะนำเสนอการกระจายอำนาจด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล โดยให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่ผู้พัฒนาในการสร้างโมเดลการคาดการณ์ Machine Learning ที่แม่นยำที่สุด<\/p>\n Numerai ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2015 ในซานฟรานซิสโก โดยบอกว่าเป็นกองทุนป้องกันความเสี่ยงแห่งแรกที่นำ Cryptocurrency เข้าสู่ตลาด<\/p>\n Numerai ใช้ข้อมูลและคำแนะนำจากผู้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อแจ้งกลยุทธ์การซื้อขายหุ้นของตน และเป็นผู้บุกเบิกการใช้การเรียนรู้ของ Machine Learning ในกระบวนการลงทุน<\/p>\n เหรียญ Numeraire (NMR) เป็นแนวคิดที่ไม่เหมือนใครในฐานะสกุลเงินดิจิทัลแรกที่เปิดตัวโดยบริษัทบริการทางการเงิน โดยเหรียญ AI นี้จะถูกมอบให้เป็ยรางวัลแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลที่มีโมเดลที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขัน Numerai และมีวัตถุประสงค์หลายประการ รวมถึงเพิ่มมูลค่าเมื่อมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น<\/p>\n Numerai ใช้ประโยชน์จากโมเดลเหล่านี้สำหรับการซื้อขายเชิงรุกในตลาดหุ้นโดยอิงจากผลลัพธ์ของการแข่งขัน แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่มองไปข้างหน้าในการซื้อขายหุ้นผ่านการพึ่งพาการคาดการณ์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI<\/p>\n “AI Crypto” เป็นภาคส่วนย่อยที่กำลังเติบโตของโครงการคริปโตเคอเรนซีที่พยายามควบรวม AI เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน<\/p>\n มีกลยุทธ์ที่หลากหลายที่ใช้โดยโครงการเหรียญ AI เหล่านี้ ตั้งแต่การผสานรวม AI เข้ากับกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกเชน ไปจนถึง การอำนวยความสะดวกให้ AI สำหรับนักพัฒนา dApp เหรียญ Altcoin ที่ดีที่สุดบางส่วนก็กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา<\/p>\n โดยทั่วไปแล้ว เหรียญ AI ทั้งหมดมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้ AI ในคริปโตเคอเรนซี, เทคโนโลยีบล็อกเชน และโครงการ Web 3.0 การรวม AI เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจจะช่วยให้การประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สัญญามีความชาญฉลาดมากขึ้น และการชำระเงินอัตโนมัติที่ปรับให้เข้ากับเงื่อนไขต่างๆ ด้วยตนเอง<\/p>\n คริปโตเคอเรนซีแต่ละตัวที่อิงจาก AI มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง โครงการคริปโตที่ใช้ AI บางโครงการก็มีเป้าหมายที่จะสร้างตลาดสำหรับการแลกเปลี่ยนอัลกอริทึม AI นั้น บางโครงการก็ใช้ AI เพื่อการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตหรือวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน เป็นต้น<\/p>\n โครงการคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีเป้าหมายจะใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อทำให้เกมแบบผู้เล่นหลายคนมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นก็อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเช่นกัน<\/p>\n ในแง่ของการทำงาน เหรียญคริปโตขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้แตกต่างจากสกุลเงินคริปโตอื่นๆ มากนัก เหรียญส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นโทเค็น ERC-20 ซึ่งหมายความว่าสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงินใดก็ได้ที่รองรับ Ethereum<\/p>\n ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีบล็อคเชน ตัวอย่างเช่น โทเค็น Fetch.ai สามารถสร้างมูลค่า FDV 3.5 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี<\/p>\n แม้ว่าจะสามารถทำเงินได้มหาศาลจากเหรียญ AI แต่นักลงทุนก็ควรประเมินแผนงานของแต่ละโครงการอย่างระมัดระวัง นักลงทุนในโครงการเหรียญ AI ควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของแผนงานและความเหมาะสมของโทเค็นในการลงทุนคริปโตระยะยาว<\/p>\n ทีมนักพัฒนาที่แข็งแกร่งเบื้องหลังโครงการเป็นสิ่งสำคัญในทุกๆ โครงการ ซึ่งโครงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) มักเกี่ยวข้องกับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และ AI นอกจากนี้ จะต้องมีปัญหาที่ชัดเจนซึ่งความพยายามด้าน AI กำลังพยายามเข้ามาแก้ไข<\/p>\n ตอนนี้ มันค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ามีศักยภาพมากมายเมื่อพูดถึงการลงทุนในเหรียญ AI โปรดนึกไว้เสมอว่าโครงการควรมีศักยภาพที่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI บนบล็อกเชน และอาจจะมีศักยภาพในการแก้ปัญหาแบบล้ำสมัยได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำเหรียญ AI เหล่านี้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าอย่างมากหลายปีต่อจากนี้<\/p>\n จาก OpenAI ChatGPT, Generative AI และเทคโนโลยี Machine Learning อื่นๆ ที่ดึงดูดการลงทุนหลายพันล้านเหรียญ เหรียญ AI จึงเป็นทรัพย์สินคริปโตที่กำลังมาแรงในขณะนี้ โดยเฉพาะ Fetch.ai (FET) ที่กลายมาเป็นข่าวพาดหัวในสื่อคริปโต ซึ่งโทเค็น FET นั้นถูกลิสต์อยู่บนกระดานเทรด OKX<\/a> แล้ว<\/p>\n โครงการคริปโตเคอเรนซี AI นำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนรวมกับปัญญาประดิษฐ์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการต่อไปในอุตสาหกรรมและภาคส่วนคริปโต นี่อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งต่อไปของคริปโตสำหรับปี 2025 ควบคู่ไปกับคริปโตเทรนด์อื่นๆ เช่น เหรียญ DEX (โทเค็นหลักของกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ หลังเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX) และเกม Play-to-Earn<\/p>\n \n\t\t\t\t\t\tเหรียญ AI ในตลาดคริปโตนั้นมีอยู่มากมาย แต่ที่โดดเด่นจากเหรียญอื่นๆ ก็ได้แก่ WienerAI (WAI) ที่มาพร้อมกับบอทเทรดคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ eTukTuk (TUK) โปรเจกต์ที่จะมาปฏิวัติวงการ Green AI <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tเหรียญและโทเค็นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถซื้อได้บนกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหลัก เช่น OKX Binance และ Crypto.com เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการเหรียญ AI ล้ำสมัยหลายโครงการเปิดให้ซื้อขายเฉพาะบนแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจ เช่น PancakeSwap <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tการบูรณาการ AI เข้ากับสกุลเงินดิจิทัลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ไอเดียเกี่ยวกับ AI ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ทำให้ผู้สร้าง dApp เข้าถึงอัลกอริธึม AI และเข้าถึงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tเหรียญคริปโตที่ใช้ AI ในการพัฒนาเรียกว่า “เหรียญ AI” เป้าหมายของคริปโตเคอเรนซี AI บางสกุลคือเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนอัลกอริธึม AI ส่วนเหรียญอื่นๆ ใช้ AI เพื่อจุดประสงค์ที่จำกัด เช่น การจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t \n\t\t\t\t\t\tFetch (FET) มักถูกพิจารณาว่าเป็นคริปโตเคอเรนซี AI ที่ดีที่สุด คุณสามารถใช้ Fetch เพื่อสร้างสถาบันทางการเงินอัตโนมัติของคุณเอง ซึ่งสามารถใช้สำหรับทุกอย่างตั้งแต่การซื้อขายอัตโนมัติไปจนถึงการทำกำไรด้วยข้อมูล <\/p>\n <\/div>\n <\/div>\n <\/section>\n\t\t\n<\/a><\/p>\n
2. SUBBD ($SUBBD)<\/strong><\/h3>\n
<\/a><\/p>\n
3. Fetch (FET)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
4. iExec RLC (RLC)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
5. Ocean Protocol (OCEAN)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
6. SingularityNET (AGIX)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
7. Velas (VLX)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
\n
8. VIDT DAO (VIDT)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
9. Cortex (CTXC)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
10. dKargo (DKA)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
11. Numeraire (NMR)<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI<\/b><\/h3>\n
<\/p>\n
อะไรทำให้<\/b>เหรียญ AI<\/b> มีเอกลักษณ์ขนาดนี้?<\/b><\/h2>\n
ควรลงทุนใน<\/b>เหรียญ AI<\/b> หรือไม่?<\/b><\/h2>\n
บทสรุป<\/b><\/h2>\n
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ<\/b>เหรียญ AI<\/b><\/h2>\n
เหรียญ AI มีอะไรบ้าง?<\/h3>
สามารถซื้อเหรียญ AI ได้ที่ไหน?<\/h3>
AI ถูกใช้ในคริปโตเคอเรนซีหรือไม่?<\/h3>
เหรียญ AI คืออะไร?<\/h3>
เหรียญ AI ที่ดีที่สุดคืออะไร?<\/h3>